วิสุทธิมรรค_06_อสุภกัมมัฏฐานนิทเทส

ความแตกต่าง

นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น

ลิงค์ไปยังการเปรียบเทียบนี้

การแก้ไขถัดไป
การแก้ไขก่อนหน้า
วิสุทธิมรรค_06_อสุภกัมมัฏฐานนิทเทส [2020/09/02 15:37] – แก้ไขภายนอก 127.0.0.1วิสุทธิมรรค_06_อสุภกัมมัฏฐานนิทเทส [2021/01/02 13:14] (ฉบับปัจจุบัน) – แก้ไขภายนอก 127.0.0.1
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
-{{wst>วสธมฉปส head| }} +{{template:วสธมฉปส head| }} 
-{{wst>วสธมฉปส sidebar}}+{{template:บับรับำนวน head|}}
 =อสุภ  10= =อสุภ  10=
 <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 302)''</fs></sub> <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 302)''</fs></sub>
บรรทัด 56: บรรทัด 56:
 =วิธีเจริญอุทธุมาตกอสุภกัมมัฏฐาน= =วิธีเจริญอุทธุมาตกอสุภกัมมัฏฐาน=
  
-ในอสุภ 10  ประการนั้น  โยคีบุคคลผู้ปรารถนาจะทำอุทธุมาตกนิมิตในร่างกายอันขึ้นพองให้บังเกิดขึ้นแล้วเจริญอุทธุมาตกฌาน  พึงเข้าไปหาอาจารย์เรนเอกัมมัฏฐาน  ตามนัยดังกล่าวมาแล้วในปถวีกสิณนั่นแล  อันอาจารย์นั้นเมื่อจะบอกกัมมัฏฐานแก่โยคีบุคคลนั้น  พึงบอกให้หมดทุกวิธีอย่างนี้คือ +ในอสุภ 10  ประการนั้น  โยคีบุคคลผู้ปรารถนาจะทำอุทธุมาตกนิมิตในร่างกายอันขึ้นพองให้บังเกิดขึ้นแล้วเจริญอุทธุมาตกฌาน  พึงเข้าไปหาอาจารย์(ผู้มคุณสมบัติตามที่กล่าวไว้ใกัมมัฏฐานััคคหณนิททส) แล้วท่งจำกัมมัฏฐาน  ตามวิธีดังกล่าวมาแล้วใน(กัมมัฏฐานััคคหณนิทเทสและ)ปถวีกสิณนั่นแล  อันอาจารย์นั้นเมื่อจะบอกกัมมัฏฐานแก่โยคีบุคคลนั้น  พึงบอกให้หมดทุกวิธีอย่างนี้คือ 
  
-ข้อควรระวังก่อนไปดูอสุภะ   +ข้อควรระวังก่อนไปดูอสุภะ   
-จดจำสิ่งแวดล้อมรอบอสุภะ +จดจำสิ่งแวดล้อมรอบอสุภะ 
-จดจำอสุภนิมิต 11 ด้าน +จดจำอสุภนิมิต 11 ด้าน 
-วิเคราะห์เส้นทางไปกลับช่วยจำได้ +วิเคราะห์เส้นทางไปกลับช่วยจำได้ 
  
-ฝ่ายโยคีบุคคลครั้นเรียนเวิธีทุก ๆ อย่างเป็นอันดีแล้ว  พึงเข้าไปยังเสนาสนะอันมีประการดังกล่าวแล้วในตอนต้น  พึงแสวงหาอุทธุมาตกนิมิตอยู่เถิด+ฝ่ายโยคีบุคคลครั้นท่งจำวิธีทุก ๆ อย่างเป็นอันดีแล้ว  พึงเข้าไปยังเสนาสนะอันมีประการดังกล่าวแล้วในตอนต้น  พึงแสวงหาอุทธุมาตกนิมิตอยู่เถิด
  
 <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 305)''</fs></sub> <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 305)''</fs></sub>
บรรทัด 181: บรรทัด 181:
 ถ้าปฏิภาคนิมิตยังไม่ปรากฏแม้ด้วยการกำหนดอย่างนี้  ตรงที่สุดแห่งท้องย่อมเป็นสิ่งที่ขึ้นพองมากกว่า  โยคีบุคคลพึงตั้งจิตไว้  ณ  ที่ตรงที่สุดแห่งท้องนั้น  โดยบริกรรมว่า  อุทธุมาตกํ  อุทธุมาตกํ  หรือว่า  อสุภที่ขึ้นพอง  อสุภที่ขึ้นพอง  ฉะนี้ ถ้าปฏิภาคนิมิตยังไม่ปรากฏแม้ด้วยการกำหนดอย่างนี้  ตรงที่สุดแห่งท้องย่อมเป็นสิ่งที่ขึ้นพองมากกว่า  โยคีบุคคลพึงตั้งจิตไว้  ณ  ที่ตรงที่สุดแห่งท้องนั้น  โดยบริกรรมว่า  อุทธุมาตกํ  อุทธุมาตกํ  หรือว่า  อสุภที่ขึ้นพอง  อสุภที่ขึ้นพอง  ฉะนี้
  
-'''ได้อุคคหนิมิต'''+===อุคคหนิมิต===
  
 บัดนี้  จะวินิจฉัยในคำทั้งหลายมีคำว่า  โยคีบุคคลนั้นย่อมกระทำซึ่งนิมิตนั้นให้เป็นอันถือเอาด้วยดีแล้ว  เป็นต้น  ดังต่อไปนี้ – บัดนี้  จะวินิจฉัยในคำทั้งหลายมีคำว่า  โยคีบุคคลนั้นย่อมกระทำซึ่งนิมิตนั้นให้เป็นอันถือเอาด้วยดีแล้ว  เป็นต้น  ดังต่อไปนี้ –
บรรทัด 225: บรรทัด 225:
 เมื่อภิกษุนั้นพิจารณาอยู่อย่างนี้  นิมิตนั้นก็จะปรากฏ  คือย่อมปรากฏเหมือนวางไว้ข้างหน้า  พระกัมมัฏฐานย่อมดำเนินไปสู่วิถีโดยอาการเดิมนั่นเทียว  ด้วยเหตุนั้น  ท่านจึงกล่าวว่า  การพิจารณาทางไปและทางมา  มียังอันวิถีให้ดำเนินไปโดยชอบเป็นประโยชน์ฉะนี้ เมื่อภิกษุนั้นพิจารณาอยู่อย่างนี้  นิมิตนั้นก็จะปรากฏ  คือย่อมปรากฏเหมือนวางไว้ข้างหน้า  พระกัมมัฏฐานย่อมดำเนินไปสู่วิถีโดยอาการเดิมนั่นเทียว  ด้วยเหตุนั้น  ท่านจึงกล่าวว่า  การพิจารณาทางไปและทางมา  มียังอันวิถีให้ดำเนินไปโดยชอบเป็นประโยชน์ฉะนี้
  
-'''ผูกจตไ้ในอสุภนิมิต'''+===คดทบทวนคุณค่าอสุภนิมิตบ่อยๆ===
  
 บัดนี้  จะอธิบายในคำของอรรถกถาจารย์ข้อว่า  โยคีบุคคลเป็นผู้มีปกติมองเห็นอานิสงส์  เป็นผู้มีความสำคัญเห็นเป็นรัตนะ  เข้าไปตั้งความเคารพไว้  ประพฤติให้เป็นที่รักอย่างสนิทอยู่  ย่อมผูกพันจิตไว้ในอารมณ์นั้น  ดังนี้ต่อไป – บัดนี้  จะอธิบายในคำของอรรถกถาจารย์ข้อว่า  โยคีบุคคลเป็นผู้มีปกติมองเห็นอานิสงส์  เป็นผู้มีความสำคัญเห็นเป็นรัตนะ  เข้าไปตั้งความเคารพไว้  ประพฤติให้เป็นที่รักอย่างสนิทอยู่  ย่อมผูกพันจิตไว้ในอารมณ์นั้น  ดังนี้ต่อไป –
บรรทัด 237: บรรทัด 237:
 กลางคืนทั้ง  ณ  ที่พักกลางวันโดยบริกรรมว่า  อสุภขึ้นพองน่าเกลียด  อสุภขึ้นพองน่าเกลียด  พึงนึกพึงมนสิการถึงนิมิตนั้นบ่อย ๆ  พึงทำให้เป็นนิมิตอันความตรึกตะล่อมไว้แล้วอันวิตกตะล่อมไว้แล้ว  เมื่อโยคีบุคคลนั้นกระทำอยู่โดยประการดังกล่าวมา  ปฏิภาคนิมิตย่อมบังเกิดขึ้น กลางคืนทั้ง  ณ  ที่พักกลางวันโดยบริกรรมว่า  อสุภขึ้นพองน่าเกลียด  อสุภขึ้นพองน่าเกลียด  พึงนึกพึงมนสิการถึงนิมิตนั้นบ่อย ๆ  พึงทำให้เป็นนิมิตอันความตรึกตะล่อมไว้แล้วอันวิตกตะล่อมไว้แล้ว  เมื่อโยคีบุคคลนั้นกระทำอยู่โดยประการดังกล่าวมา  ปฏิภาคนิมิตย่อมบังเกิดขึ้น
  
-'''ความต่างกันแห่งนิมิตทั้ง 2'''+===นิมิต 2===
  
 ในอุทธุมาตกอสุภนั้นความต่างกันแห่งนิมิตทั้ง 2  ดังนี้  อุคคหนิมิต  ย่อมปรากฏเป็นสิ่งผิดรูปผิดร่าง  น่าหวาดเสียว  ดูน่าสะพรึงกลัว  ส่วน  ปฏิภาคนิมิต  ย่อมปรากฏเหมือนคนมีองค์อวัยวะอ้วนพีที่กินอิ่มแล้วนอน ในอุทธุมาตกอสุภนั้นความต่างกันแห่งนิมิตทั้ง 2  ดังนี้  อุคคหนิมิต  ย่อมปรากฏเป็นสิ่งผิดรูปผิดร่าง  น่าหวาดเสียว  ดูน่าสะพรึงกลัว  ส่วน  ปฏิภาคนิมิต  ย่อมปรากฏเหมือนคนมีองค์อวัยวะอ้วนพีที่กินอิ่มแล้วนอน
บรรทัด 245: บรรทัด 245:
 ในเวลาพร้อมกับได้ปฏิภาคนิมิตนั่นแล  โยคีบุคคลนั้นย่อมละ  กามฉันทนิวรณ์  ได้ ด้วยอำนาจวิกขัมภนประหาน  เพราะไม่มนสิการถึงกามทั้งหลายอันเป็นภายนอก  และแม้ พยาปาทนิวรณ์  อันโยคีบุคคลนั้นก็ละได้  เพราะประหานความยินดีเสียได้นั่นเอง  เหมือนละหนองเสียได้ก็เพราะละโลหิตฉะนั้น  ถีนมิทธนิวรณ์  เป็นอันโยคีบุคคลนั้นละได้เหมือนกัน  เพราะเป็นผู้มีความเพียรปรารภแล้ว  อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์  ก็เป็นอันละได้  เพราะอำนาจประกอบด้วยธรรมอันสงบที่ไม่ทำความร้อนใจให้  วิจิกิจฉา  ในศาสดาผู้แสดงข้อปฏิบัติก็ดี  ในข้อปฏิบัติก็ดี  ในผลแห่งการปฏิบัติก็ดี  ก็เป็นอันละได้  เพราะคุณอันวิเศษที่บรรลุแล้ว  เป็นสภาพประจักษ์แจ้ง  เป็นอันโยคีบุคคลนั้นละนิวรณ์ได้ครบทั้ง 5  ด้วยประการฉะนี้ ในเวลาพร้อมกับได้ปฏิภาคนิมิตนั่นแล  โยคีบุคคลนั้นย่อมละ  กามฉันทนิวรณ์  ได้ ด้วยอำนาจวิกขัมภนประหาน  เพราะไม่มนสิการถึงกามทั้งหลายอันเป็นภายนอก  และแม้ พยาปาทนิวรณ์  อันโยคีบุคคลนั้นก็ละได้  เพราะประหานความยินดีเสียได้นั่นเอง  เหมือนละหนองเสียได้ก็เพราะละโลหิตฉะนั้น  ถีนมิทธนิวรณ์  เป็นอันโยคีบุคคลนั้นละได้เหมือนกัน  เพราะเป็นผู้มีความเพียรปรารภแล้ว  อุทธัจจกุกกุจจนิวรณ์  ก็เป็นอันละได้  เพราะอำนาจประกอบด้วยธรรมอันสงบที่ไม่ทำความร้อนใจให้  วิจิกิจฉา  ในศาสดาผู้แสดงข้อปฏิบัติก็ดี  ในข้อปฏิบัติก็ดี  ในผลแห่งการปฏิบัติก็ดี  ก็เป็นอันละได้  เพราะคุณอันวิเศษที่บรรลุแล้ว  เป็นสภาพประจักษ์แจ้ง  เป็นอันโยคีบุคคลนั้นละนิวรณ์ได้ครบทั้ง 5  ด้วยประการฉะนี้
  
-'''องค์ฌาน 5  ปรากฏ'''+===องค์ฌาน 5===
  
 อนึ่ง  วิตก  ทำหน้าที่ยกจิตขึ้นไว้ในนิมิตนั้นนั่นแล  วิจาร  ทำกิจคือพิจารณานิมิตให้สำเร็จอยู่  เพราะมีอันได้การบรรลุคุณวิเศษเป็นปัจจัย  ปีติ  ย่อมปรากฏ  เพราะปัสสัทธิสำเร็จแก่ผู้ที่มีใจประกอบด้วยปีติ  ปัสสัทธิ  ย่อมปรากฏ  สุข  ซึ่งมีปัสสัทธินั้นเป็นเหตุย่อมปรากฏ  และเพราะจิตตสมาธิ  สำเร็จแก่ผู้ที่มีความสุข  เอกัคคตา  ซึ่งมีความสุขเป็นเหตุย่อมปรากฏ  เป็นอัน  องค์ฌานทั้งหลาย  ปรากฏเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้  แม้อุปจารฌานอันเป็นเครื่องรองรับปฐมฌานก็บังเกิดแก่โยคีบุคคลนั้นในขณะพร้อมกันนั้นนั่นเทียว อนึ่ง  วิตก  ทำหน้าที่ยกจิตขึ้นไว้ในนิมิตนั้นนั่นแล  วิจาร  ทำกิจคือพิจารณานิมิตให้สำเร็จอยู่  เพราะมีอันได้การบรรลุคุณวิเศษเป็นปัจจัย  ปีติ  ย่อมปรากฏ  เพราะปัสสัทธิสำเร็จแก่ผู้ที่มีใจประกอบด้วยปีติ  ปัสสัทธิ  ย่อมปรากฏ  สุข  ซึ่งมีปัสสัทธินั้นเป็นเหตุย่อมปรากฏ  และเพราะจิตตสมาธิ  สำเร็จแก่ผู้ที่มีความสุข  เอกัคคตา  ซึ่งมีความสุขเป็นเหตุย่อมปรากฏ  เป็นอัน  องค์ฌานทั้งหลาย  ปรากฏเกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้  แม้อุปจารฌานอันเป็นเครื่องรองรับปฐมฌานก็บังเกิดแก่โยคีบุคคลนั้นในขณะพร้อมกันนั้นนั่นเทียว