การแก้ไขก่อนหน้าทั้งสองฝั่ง การแก้ไขก่อนหน้า การแก้ไขถัดไป | การแก้ไขก่อนหน้า |
วิสุทธิมรรค_03_กัมมัฏฐานคหณนิทเทส [2020/06/27 09:55] – dhamma | วิสุทธิมรรค_03_กัมมัฏฐานคหณนิทเทส [2021/01/02 13:14] (ฉบับปัจจุบัน) – แก้ไขภายนอก 127.0.0.1 |
---|
{{wst>วสธมฉปส_head|}} | {{template:วสธมฉปส head|}} |
{{wst>วสธมฉปส_sidebar}} | {{template:ฉบับปรับสำนวน head|}} |
| |
<sub><fs smaller>''(หน้า 127)''</fs></sub> | <sub><fs smaller>''(หน้า 127)''</fs></sub> |
แต่อย่างไรก็ดี ณ ที่นี้ประสงค์เอาสมาธิซึ่งประกอบด้วยปัญญานั้น ส่วนหานภาคิยธรรม ธรรมอันเป็นไปในส่วนแห่งความเสื่อม และวิเสสภาคิยธรรม ธรรมอันเป็นไปในส่วนแห่งคุณวิเศษ ในทุติยฌานเป็นต้น นักศึกษาพึงทราบโดยวิธีที่กล่าวไว้แล้วในปฐมฌานนี้ | แต่อย่างไรก็ดี ณ ที่นี้ประสงค์เอาสมาธิซึ่งประกอบด้วยปัญญานั้น ส่วนหานภาคิยธรรม ธรรมอันเป็นไปในส่วนแห่งความเสื่อม และวิเสสภาคิยธรรม ธรรมอันเป็นไปในส่วนแห่งคุณวิเศษ ในทุติยฌานเป็นต้น นักศึกษาพึงทราบโดยวิธีที่กล่าวไว้แล้วในปฐมฌานนี้ |
| |
==ทำสมาธิให้เกิดต่อเนื่องได้อย่างไร== | =ขั้นตอนทำสมาธิให้เกิดต่อเนื่องอย่างย่อ= |
===โลกิยะและโลกุตตรสมาธิ=== | |
| |
ก็แหละ ในปัญหาข้อที่ว่า ทำภาวนาสมาธิได้อย่างไร นั้น มีอรรถาธิบายดังต่อไปนี้ – | ก็แหละ ในปัญหาข้อที่ว่า ทำภาวนาสมาธิได้อย่างไร นั้น มีอรรถาธิบายดังต่อไปนี้ – |
ประกอบด้วยอริยมรรคนั้น ท่านสงเคราะห์เข้าไว้กับนัยแห่งปัญญาภาวนาแล้วนั่นเทียว เพราะว่า เมื่อปัญญาอันโยคีบุคคลภาวนาให้เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นอันได้ภาวนาให้สมาธินั้นเกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น อริยมัคคสมาธินั้น ข้าพเจ้าจะไม่ยกเอามาอธิบายไว้แผนกหนึ่งต่างหากจากปัญญาภาวนาแต่ประการใดว่า อริยมัคคสมาธินั้นพึงเจริญภาวนาอย่างนี้ ๆ | ประกอบด้วยอริยมรรคนั้น ท่านสงเคราะห์เข้าไว้กับนัยแห่งปัญญาภาวนาแล้วนั่นเทียว เพราะว่า เมื่อปัญญาอันโยคีบุคคลภาวนาให้เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นอันได้ภาวนาให้สมาธินั้นเกิดขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น อริยมัคคสมาธินั้น ข้าพเจ้าจะไม่ยกเอามาอธิบายไว้แผนกหนึ่งต่างหากจากปัญญาภาวนาแต่ประการใดว่า อริยมัคคสมาธินั้นพึงเจริญภาวนาอย่างนี้ ๆ |
| |
===ขั้นตอนทำสมาธิให้เกิดต่อเนื่องอย่างย่อ=== | '''บทบริกรรมกรรมฐาน''' |
| |
ส่วนสมาธิที่เป็นโลกิยะนี้ใด สมาธินั้นข้าพเจ้าจะยกมาอธิบายด้วยภาวนาวิธีต่อไปดังนี้ – | ส่วนสมาธิที่เป็นโลกิยะนี้ใด สมาธินั้นข้าพเจ้าจะยกมาอธิบายด้วยภาวนาวิธีต่อไปดังนี้ – |
| |
โยคีบุคคลชำระศีลทั้งหลายให้บริสุทธิ์ตามนัยที่ได้แสดงมาในสีลนิทเทสนั้นแล้ว พึงตั้งตนไว้ในศีลอันบริสุทธิ์ดีแล้วนั้น บรรดาปลิโพธเครื่องกังวล 10 ประการอย่างใดมีอยู่แก่ตน ก็จงตัดปลิโพธเครื่องกังวลอย่างนั้นเสียให้สิ้นห่วง แล้วพึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้พระกัมมัฏฐานแล้ว ท่องจำเอาพระกัมมัฏฐานอย่างใดอย่างหนึ่งในบรรดาพระกัมมัฏฐาน 40 ประการ อันเหมาะสมแก่จริตจริยาของตน แล้วพึงออกจากวัดที่ไม่สมควรแก่การที่จะภาวนาสมาธิไปอยู่ในวัดที่สมควร ครั้นแล้วพึงทำการตัดเครื่องกังวลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตัดเล็บโกนหนวดเป็นต้น ให้สิ้นเสร็จเรียบร้อย แต่นั้นพึงลงมือภาวนาสมาธินั้น ด้วยไม่ทำวิธีภาวนาทุก ๆ อย่างให้ขาดตกบกพร่องไป | #โยคีบุคคลชำระศีลทั้งหลายให้บริสุทธิ์ตามนัยที่ได้แสดงมาใน[[วิสุทธิมรรค_01-2_สีลนิทเทส|สีลนิทเทส]]นั้นแล้ว พึงตั้งตนไว้ในศีลอันบริสุทธิ์ดีแล้วนั้น |
| #[[#ปลิโพธ 10 อย่าง|บรรดาปลิโพธ (เครื่องกังวล) อย่างใดมีอยู่แก่ตน ก็จงตัดปลิโพธเครื่องกังวลอย่างนั้นเสียให้สิ้นห่วง |
| #แล้วพึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้พระกัมมัฏฐาน]] |
| #[[#10 วิธีวินิจฉัยกัมมัฏฐาน 40|แล้วท่องจำเอาพระกัมมัฏฐานอย่างใดอย่างหนึ่งในบรรดากัมมัฏฐาน 40 ประการ อันเหมาะสมแก่จริตจริยาของตน]] |
| #[[วิสุทธิมรรค_04_ปถวีกสิณนิทเทส#วิธีเลือกวัดให้ภาวนาสะดวก|แล้วพึงออกจากวัดที่ไม่สมควรแก่การที่จะภาวนาสมาธิไปอยู่ในวัดที่สมควร]] |
| #ครั้นแล้วพึงทำการตัดเครื่อง (ปลิโพธ) กังวลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตัดเล็บโกนหนวดเป็นต้น ให้สิ้นเสร็จเรียบร้อย [[วิสุทธิมรรค_03_กัมมัฏฐานคหณนิทเทส?h=พึงสอนให้ท่องจำลำดับขั้นตอน|หลังจากนั้นจึงควรลงมือภาวนาสมาธินั้น โดยไม่ทำขั้นตอนทำภาวนาทุก ๆ อย่างให้ขาดตกบกพร่องไป]] |
| |
นี้เป็นวิธีภาวนาอย่างสังเขปในสมาธิภาวนานี้ | นี้เป็นวิธีภาวนาอย่างสังเขปในสมาธิภาวนานี้ |
| |
| |
=อธิบายรายละเอียดของขั้นตอนทำสมาธิให้เกิดต่อเนื่อง= | =อธิบายรายละเอียดของขั้นตอนทำสมาธิให้เกิดต่อเนื่อง= |
ส่วนวิธีภาวนาอย่างละเอียด มีอรรถาธิบายตามลำดับ มีดังต่อไปนี้ – | ส่วนวิธีภาวนาอย่างละเอียด มีอรรถาธิบายตามลำดับ มีดังต่อไปนี้ – |
| |
====ปลิโพธ 10 อย่าง==== | ==ปลิโพธ 10 อย่าง== |
| |
คำใดที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้โดยสังเขปว่า บรรดาปลิโพธเครื่องกังวล 10 ประการ อย่างใดมีอยู่แก่ตน ก็จงตัดปลิโพธเครื่องกังวลอย่างนั้นเสียให้สิ้นห่วง ดังนี้ ในคำนั้นมีอรรถาธิบายโดยพิสดาร ดังนี้ – | คำใดที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้โดยสังเขปว่า บรรดาปลิโพธเครื่องกังวล 10 ประการ อย่างใดมีอยู่แก่ตน ก็จงตัดปลิโพธเครื่องกังวลอย่างนั้นเสียให้สิ้นห่วง ดังนี้ ในคำนั้นมีอรรถาธิบายโดยพิสดาร ดังนี้ – |
อรรถาธิบายความอย่างพิสดารในปลิโพธกถา อันเป็นประการแรก ยุติเพียงเท่านี้ | อรรถาธิบายความอย่างพิสดารในปลิโพธกถา อันเป็นประการแรก ยุติเพียงเท่านี้ |
| |
====กัมมัฏฐาน 2 อย่าง==== | ==กัมมัฏฐาน 2 อย่าง== |
| |
แหละในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า พึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้พระกัมมัฏฐาน ฉะนี้ มีอรรถาธิบายโดยพิสดารดังต่อไปนี้ – | แหละในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า พึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้พระกัมมัฏฐาน ฉะนี้ มีอรรถาธิบายโดยพิสดารดังต่อไปนี้ – |
แหละในบรรดากัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น กัมมัฏฐานบทใดเหมาะสมแก่จริยาของโยคีบุคคลใด กัมมัฏฐานบทนั้นเรียกว่า ปาริหายกัมมัฏฐาน เพราะเหตุที่โยคีบุคคลนั้นจะต้องรักษาไว้เป็นนิจอย่างหนึ่ง เพราะเป็นปทัฏฐานแก่ภาวนากรรมขั้นสูง ๆ ขึ้นไปอย่างหนึ่ง | แหละในบรรดากัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น กัมมัฏฐานบทใดเหมาะสมแก่จริยาของโยคีบุคคลใด กัมมัฏฐานบทนั้นเรียกว่า ปาริหายกัมมัฏฐาน เพราะเหตุที่โยคีบุคคลนั้นจะต้องรักษาไว้เป็นนิจอย่างหนึ่ง เพราะเป็นปทัฏฐานแก่ภาวนากรรมขั้นสูง ๆ ขึ้นไปอย่างหนึ่ง |
| |
====คุณสมบัติอาจารย์กัมมัฏฐาน==== | |
| |
ท่านผู้ใดก็ตามที่ให้กัมมัฏฐานทั้ง 2 อย่างที่กล่าวแล้วนี้ได้ ท่านผู้นี้แหละชื่อว่าผู้สามารถ=ให้พระกัมมัฏฐาน ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ข้างต้นนั้น ผู้ประสงค์จะเจริญกัมมัฏฐานพึงเข้าไปหาท่านผู้เช่นนั้นนั่นเทียว | ท่านผู้ใดก็ตามที่ให้กัมมัฏฐานทั้ง 2 อย่างที่กล่าวแล้วนี้ได้ ท่านผู้นี้แหละชื่อว่าผู้สามารถให้พระกัมมัฏฐาน ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ข้างต้นนั้น ผู้ประสงค์จะเจริญกัมมัฏฐานพึงเข้าไปหาท่านผู้เช่นนั้นนั่นเทียว |
| |
====คุณสมบัติอาจารย์กัมมัฏฐานที่เป็นกัลยาณมิตร==== | ==คุณสมบัติอาจารย์กัมมัฏฐานที่เป็นกัลยาณมิตร== |
ส่วนคำว่า กัลยาณมิตร นั้น หมายเอากัลยาณมิตรผู้ที่ดำรงตนอยู่ในฝ่ายข้างดี มีจิตมุ่งในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติประจำตนมีอาทิอย่างนี้ คือ – | ส่วนคำว่า กัลยาณมิตร นั้น หมายเอากัลยาณมิตรผู้ที่ดำรงตนอยู่ในฝ่ายข้างดี มีจิตมุ่งในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ซึ่งประกอบด้วยคุณสมบัติประจำตนมีอาทิอย่างนี้ คือ – |
| |
<sub><fs smaller>''(หน้าที่ 156)''</fs></sub> | <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 156)''</fs></sub> |
| |
====หลักการเลือกอาจารย์กัมมัฏฐานหลังพุทธปรินิพพาน==== | ==หลักการเลือกอาจารย์กัมมัฏฐานหลังพุทธปรินิพพาน== |
| |
ก็แหละ กัลยาณมิตรผู้สมบูรณ์ด้วยคุณสมบัติทุก ๆ ประการนั้น คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยพระบาลีรับรองว่า- | ก็แหละ กัลยาณมิตรผู้สมบูรณ์ด้วยคุณสมบัติทุก ๆ ประการนั้น คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยพระบาลีรับรองว่า- |
เพราะเหตุฉะนั้น โยคีบุคคลพึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้กัมมัฏฐาน ซึ่งมีคุณสมบัติเห็นปานฉะนี้ ทำวัตรปฏิบัติแก่ท่านแล้ว พึงท่องจำเอาพระกัมมัฏฐานเถิด | เพราะเหตุฉะนั้น โยคีบุคคลพึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้กัมมัฏฐาน ซึ่งมีคุณสมบัติเห็นปานฉะนี้ ทำวัตรปฏิบัติแก่ท่านแล้ว พึงท่องจำเอาพระกัมมัฏฐานเถิด |
| |
====ระเบียบเข้าหาอาจารย์ผู้กัลยาณมิตร==== | ==ระเบียบเข้าหาอาจารย์ผู้กัลยาณมิตร== |
| |
แหละถ้าโยคีบุคคลได้กัลยาณมิตรนั้นในวัดเดียวกัน ข้อนั้นนับว่าเป็นบุญ แต่ถ้าหาไม่ได้ ท่านอยู่ ณ วัดใดก็พึงไป ณ ที่วัดนั้น และเมื่อไปนั้น อย่าล้างเท้า อย่าทาน้ำมัน อย่าสวมรองเท้า อย่ากั้นร่ม อย่าให้ศิษย์ช่วยถือทนานน้ำมันและน้ำผึ้งน้ำอ้อยเป็นต้น อย่าไปอย่างมีอันเตวาสิกห้อมล้อม แต่พึงไปอย่างนี้ คือ พึงทำคมิกวัตร (วัตรของผู้เตรียมจะไป) ให้เสร็จบริบูรณ์แล้วถือเอาบาตรและจีวรของตนด้วยตนเองไป เมื่อแวะพัก ณ วัดใด ๆ ใน | แหละถ้าโยคีบุคคลได้กัลยาณมิตรนั้นในวัดเดียวกัน ข้อนั้นนับว่าเป็นบุญ แต่ถ้าหาไม่ได้ ท่านอยู่ ณ วัดใดก็พึงไป ณ ที่วัดนั้น และเมื่อไปนั้น อย่าล้างเท้า อย่าทาน้ำมัน อย่าสวมรองเท้า อย่ากั้นร่ม อย่าให้ศิษย์ช่วยถือทนานน้ำมันและน้ำผึ้งน้ำอ้อยเป็นต้น อย่าไปอย่างมีอันเตวาสิกห้อมล้อม แต่พึงไปอย่างนี้ คือ พึงทำคมิกวัตร (วัตรของผู้เตรียมจะไป) ให้เสร็จบริบูรณ์แล้วถือเอาบาตรและจีวรของตนด้วยตนเองไป เมื่อแวะพัก ณ วัดใด ๆ ใน |
ก่อนแต่จะเข้าไปสู่วัดนั้น พึงให้ทำไม้ชำระฟันให้เป็นกัปปิยะสมควรแก่ที่จะใช้ได้เสียแต่ในระหว่างทาง แล้วพึงถือเข้าไป และอย่าได้ไปแวะพัก ณ บริเวณอื่น ด้วยตั้งใจว่าจะแวะพักสักครู่หนึ่ง ล้างเท้าทาน้ำมันเท้าเป็นต้นแล้วจึงจะไปสำนักของอาจารย์ เพราะเหตุไร ? เพราะว่า ถ้าในวัดนั้นจะพึงมีพวกภิกษุที่ไม่ลงคลองกันกับอาจารย์นั้น ภิกษุเหล่านั้น ก็จะพึงซักถามถึงเหตุที่มาแล้ว ประกาศตำหนิติโทษของอาจารย์ให้ฟัง จะพึงก่อกวนให้เกิดความเดือดร้อนใจว่า ฉิบหายแล้วสิ ถ้าคุณมาสู่สำนักของภิกษุองค์นั้น ข้อนี้ก็จะพึงเป็นเหตุให้ต้องกลับไปเสียจากที่นั่นได้ เพราะฉะนั้น พึงถามถึงที่อยู่ของอาจารย์แล้วตรงไปยังที่นั้นเลยทีเดียว | ก่อนแต่จะเข้าไปสู่วัดนั้น พึงให้ทำไม้ชำระฟันให้เป็นกัปปิยะสมควรแก่ที่จะใช้ได้เสียแต่ในระหว่างทาง แล้วพึงถือเข้าไป และอย่าได้ไปแวะพัก ณ บริเวณอื่น ด้วยตั้งใจว่าจะแวะพักสักครู่หนึ่ง ล้างเท้าทาน้ำมันเท้าเป็นต้นแล้วจึงจะไปสำนักของอาจารย์ เพราะเหตุไร ? เพราะว่า ถ้าในวัดนั้นจะพึงมีพวกภิกษุที่ไม่ลงคลองกันกับอาจารย์นั้น ภิกษุเหล่านั้น ก็จะพึงซักถามถึงเหตุที่มาแล้ว ประกาศตำหนิติโทษของอาจารย์ให้ฟัง จะพึงก่อกวนให้เกิดความเดือดร้อนใจว่า ฉิบหายแล้วสิ ถ้าคุณมาสู่สำนักของภิกษุองค์นั้น ข้อนี้ก็จะพึงเป็นเหตุให้ต้องกลับไปเสียจากที่นั่นได้ เพราะฉะนั้น พึงถามถึงที่อยู่ของอาจารย์แล้วตรงไปยังที่นั้นเลยทีเดียว |
| |
====ระเบียบปฏิบัติต่ออาจารย์==== | ==ระเบียบปฏิบัติต่ออาจารย์== |
| |
ถ้าแหละ แม้อาจารย์นั้นจะเป็นผู้อ่อนพรรษากว่า ก็อย่าพึงยินดีต่อการช่วยรับบาตรและจีวรเป็นต้น ถ้าท่านแก่พรรษากว่า พึงไปไหว้ท่านแล้วยืนคอยอยู่ก่อน พึงเก็บบาตรและจีวรไว้ตามที่ท่านแนะนำว่า "อาวุโส เก็บบาตรและจีวรเสีย" ถ้าปรารถนาอยากจะดื่มก็จงดื่มตามที่ท่านแนะนำว่า "อาวุโส นิมนต์ดื่มน้ำ" แต่อย่าพึ่งล้างเท้าทันทีตามที่ท่านแนะนำว่า "ล้างเท้าเสีย อาวุโส" เพราะถ้าเป็นน้ำที่พระอาจารย์ตักเอามาเอง ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สมควร แต่เมื่อท่านแนะนำว่า "ล้างเถิด อาวุโส ฉันไม่ได้ตักมาเองดอก คนอื่นเขาตักมา" พึงไปนั่งล้างเท้า ณ โอกาสอันกำบังที่อาจารย์มองไม่เห็น หรือ ณ ส่วนข้างหนึ่งของวิหารอันเป็นที่ว่างเปล่า | ถ้าแหละ แม้อาจารย์นั้นจะเป็นผู้อ่อนพรรษากว่า ก็อย่าพึงยินดีต่อการช่วยรับบาตรและจีวรเป็นต้น ถ้าท่านแก่พรรษากว่า พึงไปไหว้ท่านแล้วยืนคอยอยู่ก่อน พึงเก็บบาตรและจีวรไว้ตามที่ท่านแนะนำว่า "อาวุโส เก็บบาตรและจีวรเสีย" ถ้าปรารถนาอยากจะดื่มก็จงดื่มตามที่ท่านแนะนำว่า "อาวุโส นิมนต์ดื่มน้ำ" แต่อย่าพึ่งล้างเท้าทันทีตามที่ท่านแนะนำว่า "ล้างเท้าเสีย อาวุโส" เพราะถ้าเป็นน้ำที่พระอาจารย์ตักเอามาเอง ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่สมควร แต่เมื่อท่านแนะนำว่า "ล้างเถิด อาวุโส ฉันไม่ได้ตักมาเองดอก คนอื่นเขาตักมา" พึงไปนั่งล้างเท้า ณ โอกาสอันกำบังที่อาจารย์มองไม่เห็น หรือ ณ ส่วนข้างหนึ่งของวิหารอันเป็นที่ว่างเปล่า |
อรรถาธิบายพิสดารในหัวข้อสังเขปว่า พึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้พระกัมมัฏฐาน ยุติเพียงเท่านี้ | อรรถาธิบายพิสดารในหัวข้อสังเขปว่า พึงเข้าไปหากัลยาณมิตรผู้ให้พระกัมมัฏฐาน ยุติเพียงเท่านี้ |
| |
====จริยา 6 อย่าง==== | ==จริยา 6 อย่าง== |
| |
บัดนี้ จะอรรถาธิบายในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า อันเหมาะสมแก่จริยาของตน ฉะนี้ต่อไป – | บัดนี้ จะอรรถาธิบายในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า อันเหมาะสมแก่จริยาของตน ฉะนี้ต่อไป – |
ส่วนกัมมัฏฐานอันเหมาะสมแก่จริยานั้น ข้าพเจ้ายังจะไม่แสดงให้แจ้งชัดโดยสิ้นเชิงก่อน เพราะกัมมัฏฐานนั้น ๆ จักปรากฏแจ้งชัดด้วยตัวเอง ในอรรถาธิบายพิสดารของหัวข้อถัดไปนี้ | ส่วนกัมมัฏฐานอันเหมาะสมแก่จริยานั้น ข้าพเจ้ายังจะไม่แสดงให้แจ้งชัดโดยสิ้นเชิงก่อน เพราะกัมมัฏฐานนั้น ๆ จักปรากฏแจ้งชัดด้วยตัวเอง ในอรรถาธิบายพิสดารของหัวข้อถัดไปนี้ |
| |
====10 วิธีวินิจฉัยกัมมัฏฐาน 40==== | ==10 วิธีวินิจฉัยกัมมัฏฐาน 40== |
| |
เพราะเหตุฉะนั้น ในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า ท่องจำเอาพระกัมมัฏฐานอย่างใดอย่างหนึ่งในบรรดาพระกัมมัฏฐาน 40 ประการ ฉะนี้นั้น ประการแรกนักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยอาการ 10 อย่าง ดังนี้ คือ- | เพราะเหตุฉะนั้น ในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า ท่องจำเอาพระกัมมัฏฐานอย่างใดอย่างหนึ่งในบรรดาพระกัมมัฏฐาน 40 ประการ ฉะนี้นั้น ประการแรกนักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยอาการ 10 อย่าง ดังนี้ คือ- |
10. วิธีเหมาะสมแก่จริยา | 10. วิธีเหมาะสมแก่จริยา |
| |
=====โดยอธิบายวิธีนับจำนวน===== | ===โดยอธิบายวิธีนับจำนวน=== |
| |
ในวิธีวินิจฉัย 10 ข้อนั้น ข้อแรกว่า โดยอธิบายวิธีนับจำนวน มีอรรถาธิบายดังนี้ - ก็ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วว่า ในบรรดาพระกัมมัฏฐาน 40 ประการ ดังนี้ หมายถึง พระกัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น (จัดเป็น 7 ประเภท) คือ – | ในวิธีวินิจฉัย 10 ข้อนั้น ข้อแรกว่า โดยอธิบายวิธีนับจำนวน มีอรรถาธิบายดังนี้ - ก็ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วว่า ในบรรดาพระกัมมัฏฐาน 40 ประการ ดังนี้ หมายถึง พระกัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น (จัดเป็น 7 ประเภท) คือ – |
2. อสุภกัมมัฏฐาน 10 อย่าง | 2. อสุภกัมมัฏฐาน 10 อย่าง |
| |
3. อนุสสติกัมมัฏฐาน 10 อย่าง | 3. อนุสสติกัมมัฏฐาน 10 อย่าง (ุ6+4) |
| |
4. พรหมวิหารกัมมัฏฐาน 4 อย่าง | 4. พรหมวิหารกัมมัฏฐาน 4 อย่าง |
นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยแสดงจำนวน ด้วยประการฉะนี้ | นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยแสดงจำนวน ด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยนำมาซึ่งอุปจารฌานและอัปปนาฌาน===== | ===โดยนำมาซึ่งอุปจารฌานและอัปปนาฌาน=== |
| |
ข้อว่า โดยนำมาซึ่งอุปจารฌานและอัปปนาฌาน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้- ก็แหละ ในกัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น เฉพาะกัมมัฏฐาน 10 ประการ คือ ยกเว้นกายคตาสติกับอานาปานสติเสีย อนุสสติกัมมัฏฐานที่เหลือ 8 กับอาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 จตุธาตุววัตถาน 1 นำมาซึ่งอุปจารฌาน กัมมัฏฐานที่เหลือ 30 ประการ นำมาซึ่งอัปปนาฌาน | ข้อว่า โดยนำมาซึ่งอุปจารฌานและอัปปนาฌาน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้- ก็แหละ ในกัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น เฉพาะกัมมัฏฐาน 10 ประการ คือ ยกเว้นกายคตาสติกับอานาปานสติเสีย อนุสสติกัมมัฏฐานที่เหลือ 8 กับอาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 จตุธาตุววัตถาน 1 นำมาซึ่งอุปจารฌาน กัมมัฏฐานที่เหลือ 30 ประการ นำมาซึ่งอัปปนาฌาน |
<sub><fs smaller>''(หน้าที่ 179)''</fs></sub> | <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 179)''</fs></sub> |
| |
=====โดยความต่างกันแห่งฌาน===== | ===โดยความต่างกันแห่งฌาน=== |
| |
ข้อว่า โดยความต่างกันแห่งฌาน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - แหละในกัมมัฏฐาน 30 ประการที่นำมาซึ่งอัปปนาฌานนั้น กสิณ 10 กับ อานาปานสติ 1 รวมเป็น 11 ประการ ย่อมให้สำเร็จฌานได้ทั้ง 4 ฌาน อสุภ 10 กับ กายคตาสติ 1 รวมเป็น 11 ประการ ย่อมให้สำเร็จเพียงปฐมฌานอย่างเดียว พรหมวิหาร 3 ข้างต้นให้สำเร็จฌาน 3 ข้างต้น พรหมวิหาร ข้อที่ 4 และอรุปปกัมมัฏฐาน 4 ย่อมให้สำเร็จฌานที่ 4 | ข้อว่า โดยความต่างกันแห่งฌาน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - แหละในกัมมัฏฐาน 30 ประการที่นำมาซึ่งอัปปนาฌานนั้น กสิณ 10 กับ อานาปานสติ 1 รวมเป็น 11 ประการ ย่อมให้สำเร็จฌานได้ทั้ง 4 ฌาน อสุภ 10 กับ กายคตาสติ 1 รวมเป็น 11 ประการ ย่อมให้สำเร็จเพียงปฐมฌานอย่างเดียว พรหมวิหาร 3 ข้างต้นให้สำเร็จฌาน 3 ข้างต้น พรหมวิหาร ข้อที่ 4 และอรุปปกัมมัฏฐาน 4 ย่อมให้สำเร็จฌานที่ 4 |
ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยความต่างกันแห่งฌานด้วยประการฉะนี้ | ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยความต่างกันแห่งฌานด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยผ่านองค์ฌานและอารมณ์===== | ===โดยผ่านองค์ฌานและอารมณ์=== |
| |
ข้อว่า โดยผ่านองค์ฌานและอารมณ์ นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - การผ่านนั้นมี 2 อย่าง คือ การผ่านองค์ฌาน 1 การผ่านอารมณ์ 1 ใน 2 อย่างนั้น การผ่านองค์ฌานย่อมมีได้ในกัมมัฏฐานที่ให้สำเร็จฌาน 3 และฌาน 4 แม้ทั้งหมด ทั้งนี้ เพราะทุติยฌาน เป็นต้นที่ฌานลาภีบุคคลจะพึงได้บรรลุในอารมณ์เดียวกันนั้น ต้องผ่านองค์ฌานทั้งหลาย มีวิตกและวิจารเป็นต้นขึ้นไป ในพรหมวิหารข้อที่ 4 ก็เหมือนกัน เพราะแม้พรหมวิหารข้อที่ 4 นั้น อันฌานลาภีบุคคลจะพึงได้บรรลุ ก็ต้องผ่านโสมนัสเวทนาในอารมณ์ของพรหมวิหาร 3 มีเมตตาเป็นต้นไปเหมือนกัน | ข้อว่า โดยผ่านองค์ฌานและอารมณ์ นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - การผ่านนั้นมี 2 อย่าง คือ การผ่านองค์ฌาน 1 การผ่านอารมณ์ 1 ใน 2 อย่างนั้น การผ่านองค์ฌานย่อมมีได้ในกัมมัฏฐานที่ให้สำเร็จฌาน 3 และฌาน 4 แม้ทั้งหมด ทั้งนี้ เพราะทุติยฌาน เป็นต้นที่ฌานลาภีบุคคลจะพึงได้บรรลุในอารมณ์เดียวกันนั้น ต้องผ่านองค์ฌานทั้งหลาย มีวิตกและวิจารเป็นต้นขึ้นไป ในพรหมวิหารข้อที่ 4 ก็เหมือนกัน เพราะแม้พรหมวิหารข้อที่ 4 นั้น อันฌานลาภีบุคคลจะพึงได้บรรลุ ก็ต้องผ่านโสมนัสเวทนาในอารมณ์ของพรหมวิหาร 3 มีเมตตาเป็นต้นไปเหมือนกัน |
<sub><fs smaller>''(หน้าที่ 180)''</fs></sub> | <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 180)''</fs></sub> |
| |
=====โดยควรขยายและไม่ควรขยาย===== | ===โดยควรขยายและไม่ควรขยาย=== |
| |
ข้อว่า โดยควรขยายและไม่ควรขยาย นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ | ข้อว่า โดยควรขยายและไม่ควรขยาย นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ |
ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยควรขยายและไม่ควรขยายด้วยประการฉะนี้ | ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยควรขยายและไม่ควรขยายด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยอารมณ์ของฌาน===== | ===โดยอารมณ์ของฌาน=== |
| |
ข้อว่า โดยอารมณ์ของฌาน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - ก็แหละในกัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น กสิณ 10 อสุภ 10 อานาปานสติ 1 กายคตาสติ 1 รวม 22 กัมมัฏฐานนี้ มีอารมณ์เป็นปฏิภาคนิมิต กัมมัฏฐานที่เหลือ 18 มีอารมณ์ไม่เป็นปฏิภาคนิมิต | ข้อว่า โดยอารมณ์ของฌาน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - ก็แหละในกัมมัฏฐาน 40 ประการนั้น กสิณ 10 อสุภ 10 อานาปานสติ 1 กายคตาสติ 1 รวม 22 กัมมัฏฐานนี้ มีอารมณ์เป็นปฏิภาคนิมิต กัมมัฏฐานที่เหลือ 18 มีอารมณ์ไม่เป็นปฏิภาคนิมิต |
ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานในอารมณ์ของฌานด้วยประการฉะนี้ | ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานในอารมณ์ของฌานด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยภูมิเป็นที่บังเกิด===== | ===โดยภูมิเป็นที่บังเกิด=== |
| |
ก็แหละ ในข้อว่า โดยภูมิเป็นที่บังเกิด นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - อสุภกัมมัฏฐาน 10 กายคตาสติ 1 อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 รวม 12 กัมมัฏฐานนี้ ย่อมไม่บังเกิดในเทวโลกชั้นกามาวจร เพราะซากศพและอาหารอันน่าเกลียดไม่มีในเทวโลกชั้นนั้น กัมมัฏฐาน 12 นั้น รวมกับอานาปานสติ 1 เป็น 13 กัมมัฏฐานนี้ ย่อมไม่บังเกิดในพรหมโลก เพราะลมอัสสาสะปัสสาสะไม่มีในพรหมโลก กัมมัฏฐานอื่น ๆ นอกจากอารุปปกัมมัฏฐาน 4 แล้ว ย่อมไม่บังเกิดในอรูปภพ ส่วนในโลกมนุษย์ กัมมัฏฐานบังเกิดได้ครบหมดทั้ง 40 ประการ | ก็แหละ ในข้อว่า โดยภูมิเป็นที่บังเกิด นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - อสุภกัมมัฏฐาน 10 กายคตาสติ 1 อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 รวม 12 กัมมัฏฐานนี้ ย่อมไม่บังเกิดในเทวโลกชั้นกามาวจร เพราะซากศพและอาหารอันน่าเกลียดไม่มีในเทวโลกชั้นนั้น กัมมัฏฐาน 12 นั้น รวมกับอานาปานสติ 1 เป็น 13 กัมมัฏฐานนี้ ย่อมไม่บังเกิดในพรหมโลก เพราะลมอัสสาสะปัสสาสะไม่มีในพรหมโลก กัมมัฏฐานอื่น ๆ นอกจากอารุปปกัมมัฏฐาน 4 แล้ว ย่อมไม่บังเกิดในอรูปภพ ส่วนในโลกมนุษย์ กัมมัฏฐานบังเกิดได้ครบหมดทั้ง 40 ประการ |
ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยภูมิเป็นที่บังเกิด ด้วยประการฉะนี้ | ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยภูมิเป็นที่บังเกิด ด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยการถือเอา===== | ===โดยการถือเอา=== |
| |
ในข้อว่า โดยการถือเอา นั้น พึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐาน แม้โดยการถือเอาด้วยวัตถุที่ได้เห็น, ได้ถูกต้อง และที่ได้ยินดังนี้ - ในกัมมัฏฐานเหล่านั้น ยกเว้นวาโยกสิณเสีย กสิณที่เหลือ 9 กับ อสุภ 10 รวมเป็น 19 กัมมัฏฐานนี้ พึงถือเอาได้ด้วยสีที่ได้เห็น อธิบายว่า ในเบื้องต้นต้องแลดูด้วยตาเสียก่อนแล้วจึงถือเอานิมิตของกัมมัฏฐานเหล่านั้นได้ในกายคตาสติ อาการ 5 คือ ผม, ขน, เล็บ, ฟัน, และหนัง พึงถือเอาได้ด้วยสีที่ได้เห็น อาการที่เหลือ 27 พึงถือเอาได้ด้วยเสียงที่ได้ยิน ดังนั้น อารมณ์ของกายคตาสติกัมมัฏฐาน | ในข้อว่า โดยการถือเอา นั้น พึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐาน แม้โดยการถือเอาด้วยวัตถุที่ได้เห็น, ได้ถูกต้อง และที่ได้ยินดังนี้ - ในกัมมัฏฐานเหล่านั้น ยกเว้นวาโยกสิณเสีย กสิณที่เหลือ 9 กับ อสุภ 10 รวมเป็น 19 กัมมัฏฐานนี้ พึงถือเอาได้ด้วยสีที่ได้เห็น อธิบายว่า ในเบื้องต้นต้องแลดูด้วยตาเสียก่อนแล้วจึงถือเอานิมิตของกัมมัฏฐานเหล่านั้นได้ในกายคตาสติ อาการ 5 คือ ผม, ขน, เล็บ, ฟัน, และหนัง พึงถือเอาได้ด้วยสีที่ได้เห็น อาการที่เหลือ 27 พึงถือเอาได้ด้วยเสียงที่ได้ยิน ดังนั้น อารมณ์ของกายคตาสติกัมมัฏฐาน |
ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยการถือเอา ด้วยประการฉะนี้ | ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยการถือเอา ด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยความเป็นปัจจัยเกื้อหนุน===== | ===โดยความเป็นปัจจัยเกื้อหนุน=== |
| |
ข้อว่า โดยความเป็นปัจจัยเกื้อหนุน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - ก็แหละในบรรดากัมมัฏฐานเหล่านี้ ยกเว้นอากาสกสิณเสีย กสิณที่เหลือ 9 ประการ ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อารุปปฌานทั้งหลาย กสิณทั้ง 10 ประการ ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อภิญญาทั้งหลาย พรหมวิหาร 3 (ข้างต้น) ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่พรหมวิหารข้อที่ 4 อารุปปกัมมัฏฐานบทต่ำ ๆ ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อารุปปกัมมัฏฐานบทสูง ๆ เนวสัญญานาสัญญายตนกัมมัฏฐาน ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่นิโรธสมาบัติ กัมมัฏฐานแม้ทั้งหมด ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่การอยู่เป็นสุข แก่วิปัสนากัมมัฏฐาน และแก่ภวสมบัติทั้งหลาย | ข้อว่า โดยความเป็นปัจจัยเกื้อหนุน นั้น มีอรรถาธิบายดังนี้ - ก็แหละในบรรดากัมมัฏฐานเหล่านี้ ยกเว้นอากาสกสิณเสีย กสิณที่เหลือ 9 ประการ ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อารุปปฌานทั้งหลาย กสิณทั้ง 10 ประการ ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อภิญญาทั้งหลาย พรหมวิหาร 3 (ข้างต้น) ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่พรหมวิหารข้อที่ 4 อารุปปกัมมัฏฐานบทต่ำ ๆ ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่อารุปปกัมมัฏฐานบทสูง ๆ เนวสัญญานาสัญญายตนกัมมัฏฐาน ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่นิโรธสมาบัติ กัมมัฏฐานแม้ทั้งหมด ย่อมเป็นปัจจัยเกื้อหนุนแก่การอยู่เป็นสุข แก่วิปัสนากัมมัฏฐาน และแก่ภวสมบัติทั้งหลาย |
ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยความเป็นปัจจัยเกื้อหนุน ด้วยประการฉะนี้ | ฉะนั้น นักศึกษาพึงทราบการวินิจฉัยกัมมัฏฐานโดยความเป็นปัจจัยเกื้อหนุน ด้วยประการฉะนี้ |
| |
=====โดยเหมาะสมแก่จริยา===== | ===โดยเหมาะสมแก่จริยา=== |
| |
ในข้อว่า โดยเหมาะสมแก่จริยา นี้ พึงทราบการวินิจฉัยแม้โดยความเหมาะสม แก่จริยาทั้งหลาย ดังนี้ – | ในข้อว่า โดยเหมาะสมแก่จริยา นี้ พึงทราบการวินิจฉัยแม้โดยความเหมาะสม แก่จริยาทั้งหลาย ดังนี้ – |
<sub><fs smaller>''(หน้าที่ 186)''</fs></sub> | <sub><fs smaller>''(หน้าที่ 186)''</fs></sub> |
| |
====วิธีท่องจำเอา(เรียน)กัมมัฏฐาน==== | ==วิธีท่องจำเอา(เรียน)กัมมัฏฐาน== |
| |
ก็แหละ คำว่า ท่องจำเอา (เรียน) นั้น มีอรรถาธิบายดังต่อไปนี้ – | ก็แหละ คำว่า ท่องจำเอา (เรียน) นั้น มีอรรถาธิบายดังต่อไปนี้ – |
นี้เป็นอานิสงส์ในการมอบถวายตัว ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวไว้ว่า พึงมอบถวายตัวแด่พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าหรือแก่อาจารย์ ฉะนี้ | นี้เป็นอานิสงส์ในการมอบถวายตัว ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงได้กล่าวไว้ว่า พึงมอบถวายตัวแด่พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าหรือแก่อาจารย์ ฉะนี้ |
| |
====โยคีผู้มีอัชฌาสัยและอธิมุติสมบูรณ์==== | ==โยคีผู้มีอัชฌาสัยและอธิมุติสมบูรณ์== |
| |
ก็แหละ ในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวมาแล้วว่า เป็นผู้มีอัชฌาสัยอันสมบูรณ์และมีอธิมุติอันสมบูรณ์ ฉะนี้นั้น มีอรรถาธิบายดังต่อไปนี้- | ก็แหละ ในหัวข้อสังเขปที่ข้าพเจ้ากล่าวมาแล้วว่า เป็นผู้มีอัชฌาสัยอันสมบูรณ์และมีอธิมุติอันสมบูรณ์ ฉะนี้นั้น มีอรรถาธิบายดังต่อไปนี้- |
แม้ในกัมมัฏฐานที่เหลือทั้งหลาย ก็พึงสอนลำดับขั้นตอนอันสมควรแก่กัมมัฏฐานนั้น ๆ ลำดับขั้นตอนทั้งหมดนั้นจักแจ้งชัดในวิธีภาวนาของกัมมัฏฐานทั้งหลายเหล่านั้น | แม้ในกัมมัฏฐานที่เหลือทั้งหลาย ก็พึงสอนลำดับขั้นตอนอันสมควรแก่กัมมัฏฐานนั้น ๆ ลำดับขั้นตอนทั้งหมดนั้นจักแจ้งชัดในวิธีภาวนาของกัมมัฏฐานทั้งหลายเหล่านั้น |
| |
====โยคีบุคคลต้องจำให้แม่นยำ==== | ==โยคีบุคคลต้องจำให้แม่นยำ== |
| |
ก็แหละ เมื่ออาจารย์สอนกัมมัฏฐานให้อยู่ด้วยอาการอย่างนี้ โยคีบุคคลนั้นพึงตั้งใจฟัง เพื่อท่องจำเอานิมิตนั้นให้ได้ คือ เอาอาการ 9 อย่างนั้นแต่ละอย่างๆ มาผูกไว้ในใจอย่างนี้ว่า "คำนี้เป็นบทหลัง, คำนี้เป็นบทหน้า, ความหมายของบทนั้นๆ เป็นอย่างนี้, จุดมุ่งหมายของบทนั้นเป็นอย่างนี้, และบทนี้เป็นคำอุปมาอุปไมย" (จดจำได้ชำนาญนึกหัวถึงท้าย นึกท้ายถึงหัว เหมือนในบทธรรมคุณข้อว่า [[วิสุทธิมรรค_ฉบับปรับสำนวน_ปริจเฉท_7_ฉอนุสสตินิทเทส#1._อธิบายบท_สวากฺขาโต|ความงาม 3 ของปริยัติธรรม]] ได้แสดงไว้) | ก็แหละ เมื่ออาจารย์สอนกัมมัฏฐานให้อยู่ด้วยอาการอย่างนี้ โยคีบุคคลนั้นพึงตั้งใจฟัง เพื่อท่องจำเอานิมิตนั้นให้ได้ คือ เอาอาการ 9 อย่างนั้นแต่ละอย่างๆ มาผูกไว้ในใจอย่างนี้ว่า "คำนี้เป็นบทหลัง, คำนี้เป็นบทหน้า, ความหมายของบทนั้นๆ เป็นอย่างนี้, จุดมุ่งหมายของบทนั้นเป็นอย่างนี้, และบทนี้เป็นคำอุปมาอุปไมย" (จดจำได้ชำนาญนึกหัวถึงท้าย นึกท้ายถึงหัว เหมือนในบทธรรมคุณข้อว่า [[วิสุทธิมรรค_ฉบับปรับสำนวน_ปริจเฉท_7_ฉอนุสสตินิทเทส#1._อธิบายบท_สวากฺขาโต|ความงาม 3 ของปริยัติธรรม]] ได้แสดงไว้) |
'''ยุติลงด้วยประการฉะนี้''' | '''ยุติลงด้วยประการฉะนี้''' |
| |
==ดูเพิ่ม== | =ดูเพิ่ม= |
*'''[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/sutta23.php ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค]''' | *'''[http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/sutta23.php ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค]''' |
*'''[[วิสุทธิมรรค ฉบับปรับสำนวน]] (สารบัญ)''' | *'''[[วิสุทธิมรรค ฉบับปรับสำนวน]] (สารบัญ)''' |
| |