ฟุตโน้ต:29:24

ความแตกต่าง

นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น

ลิงค์ไปยังการเปรียบเทียบนี้

การแก้ไขก่อนหน้าทั้งสองฝั่ง การแก้ไขก่อนหน้า
การแก้ไขถัดไป
การแก้ไขก่อนหน้า
ฟุตโน้ต:29:24 [2025/01/27 12:10] dhammaฟุตโน้ต:29:24 [2025/01/27 14:52] (ฉบับปัจจุบัน) dhamma
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
- # แปลปฐมพุทธอุทาน+แปลปฐมพุทธอุทาน =
  
 เมื่อเรายังค้นคว้าหานายช่างผู้ปรุงแต่งเรือนไม่พบ เมื่อเรายังค้นคว้าหานายช่างผู้ปรุงแต่งเรือนไม่พบ
บรรทัด 43: บรรทัด 43:
 https://wiki.5000y.men/ฟุตโน้ต:29:24 https://wiki.5000y.men/ฟุตโน้ต:29:24
  
-แต่มีบางท่านอ่านอรรถกถาธรรมบท +แต่มีบางท่านอ่านอรรถกถาธรรมบท หรือ พจนานุกรม PTS
  
-แล้วเข้าใจว่า แปลว่า "เราไม่ได้ญาณ, เรายังไม่พบญาณ"+แล้วเข้าใจว่า แปล อนิพฺพิสํ ว่า "เราไม่ได้ญาณ, เรายังไม่พบญาณ"
  
-บนั้นก็สรถแปลเอาแค่ความหมายได้ แต่จะทำให้อ่นต้นฉบับบาลียา+อธิบายว่า ในบาลีแปลวา "เื่อเรายังไม่(ได้ณ)ค้นบ ายช่งผู้ปรุงแต่งเรือน, 
  
-เพราว่า ต้ฉบับบาลีกำลังสดงเ็นอุปมอุปไมย สนอรรถกถาแสดสภาวะขณะได้โพธิญาณของระพุทธจ้า.+รถกถจึงเอาจิตที่แทงตลอดมาขยายว่า ที่ในบาลีแปลว่า "ไม่ค้พบ" คือ ยัไม่ได้ญาณช่วยให้ค้นบ (ค้นบนายช่างผู้ปรงแต่งรือน),
  
-าย่า ในบาลีบอกว่า "เมื่อเรายังไม่(ได้ญาณ)บ นาย่างผู้ปรุงแต่งเือน (ือตัณหา), อรรถกถากบอกว่า "เมื่อเรายม่ไดณ"+ฉะนั้นถ้าแปลบาลี พฺพิสํ ว่า "เราไม่ได้ญาณ, เรายังไมพบญณ" จะทำห้นักเรียนบาลีสัสนเพราะ 
 + 
 +*ถ้าจะคิดง่ายๆ เลย คือ เยน ญาเณน ในอรรถถา ทำให้ ตํ ญาณํ ในอรรถกถา กลายเป็นการณะของ ทฏฺฐุํ ในอรรถกถา ซึ่งกำลังสื่อถึง ทิฏฺโฐสิ ในบาลี และคำว่า ทิฏฺโฐสิ นี้ ก็ป็นคำตรงกันข้าง อนิพฺพิสํ ที่แปลว่า เรายังค้นไม่พบ. 
 +* ในบาลี Subject กับ Verb คือ อนิพฺพิสํ แสดงไว้ในบทที่ 2, ส่วน Object คือ คหาการํ แสดงในบทที่ 3 
 +* ในอรรถกถา จึงอธิบายแค่ อนิพฺพิสํ ในบทที่ 2 โดยไม่ได้ยก Object มา 
 +* คนแปลบางท่านอ่านอรรถกถาที่ว่า อนิพฺพิสํ '''ตํ ญาณํ''' อวินฺทนฺโต อลฺภฺโต ก็เลยเข้ใจว่า อรรถกถาขาย Object ว่า '''ตํ ญาณํ''' 
 +* แต่จริๆ "ตํ ญาณํ" อรรถกถาไม่ไดขยายว่าเ็น Object แต่กำลังเมประโยค  "เยน ญาเณน" กับ "ตํ ญาณํ" ที่ท่านแสดงไว้ในการขยายวามบทที่ 2 เช่นเดียวกันว่า "พระโพธิสัตว์จะหาตัณหาพบด้วยญาณใด...เมื่อไม่แทงตลอด ไม่ได้ญาณนั้น" 
 +* ส่วน Object อรรถกถาดึงมาจากบทที่ 3 โดยให้ขึ้นเป็นส่วนแรกขารอธิบายสภาะทั้งหมดนี้ [เพราะบาลีเป็นอุปมาอุปไมย] เพราะไปคูกับ Subject หลักในบลี คือ คเวสนฺโต, เมื่อจะอธิบายอุปมาให้่าย จึงยก Object กับ Subject  ขึ้นาอยางนี้ แล้วค่อยเอา Complement มาขยายสภาวะให้เห็น. 
 + 
 +== Note == 
 + 
 +- Subject กตฺตา, ประธานของประโยค 
 + 
 +- Object กมฺม, กรรมของประโยค 
 + 
 +- Complement ส่วนขยายอื่นๆ ที่เหลือในประโยค