ความแตกต่าง
นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น
การแก้ไขก่อนหน้าทั้งสองฝั่ง การแก้ไขก่อนหน้า การแก้ไขถัดไป | การแก้ไขก่อนหน้า | ||
ฟุตโน้ต:29:24 [2025/01/23 04:57] – dhamma | ฟุตโน้ต:29:24 [2025/01/27 14:52] (ฉบับปัจจุบัน) – dhamma | ||
---|---|---|---|
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
- | 8. อเนกชาติสํสารํ สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ | + | = แปลปฐมพุทธอุทาน |
- | คหการกํ | + | เมื่อเรายังค้นคว้าหานายช่างผู้ปรุงแต่งเรือนไม่พบ |
- | คหการก ทิฏฺโฐสิ ปุน | + | เราจึงต้องเวียนว่ายเกิดตายบ่อยๆ นับชาติไม่ถ้วน, |
- | สพฺพา | + | เพราะการที่เราต้องเกิดบ่อยๆ ล้วนแต่เป็นทุกข์, |
- | วิสงฺขารคตํ | + | ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจึงค้นคว้าหาท่านอยู่. |
- | เมื่อเรายังค้นคว้าหานายช่างผู้ปรุงแต่งเรือนไม่พบ | + | แน่ะนายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน |
- | เราจึงต้องเวียนว่ายเกิดตายบ่อยๆ นับชาติไม่ถ้วน | + | ท่านจะปรุงแต่งเรือนอีกไม่ได้, |
- | เพราะการที่เราต้องเกิดบ่อยๆ ล้วนแต่เป็นทุกข์ | + | ซี่โครงทุกซี่ของท่านเราหักเสียแล้ว, |
- | ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจึงค้นคว้าหาท่านอยู่. | + | จิตของเราไม่ปรุงแต่งยอดเรือนอีกต่อไปแล้ว, |
+ | |||
+ | จิตของเราเข้าถึงสภาวะไม่ปรุงแต่งแล้ว, | ||
+ | |||
+ | เพราะเราบรรลุธรรมที่หมดสิ้นตัณหาแล้ว. | ||
+ | |||
+ | (แน่ะนายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน เราได้ค้นพบท่านแล้ว | ||
+ | |||
+ | เพราะเราค้นคว้าเห็นยอดเรือนคือความไม่รู้ว่า | ||
+ | |||
+ | 1. การที่เราต้องเกิดบ่อยๆ ล้วนแต่เป็นทุกข์, | ||
+ | |||
+ | 2. การที่เรามีตัณหาปรุงแต่งเรือนบ่อยๆ เป็นเหตุแห่งทุกข์, | ||
+ | |||
+ | 3. ถ้าจิตของเราเข้าถึงสภาวะไม่ปรุงแต่งเรือนใหม่แล้ว | ||
+ | |||
+ | ทุกข์ก็ไม่ถูกปรุงแต่งให้เกิดขึ้นใหม่เช่นกัน, | ||
+ | |||
+ | 4. เมื่อเราค้นพบอวิชชาจนเห็นอริยสัจ 4 นี้แล้ว | ||
+ | |||
+ | เราจึงปฏิบัติการหักรานตัณหาไม่ให้ท่านปรุงแต่งได้อีก | ||
+ | |||
+ | เรือนใหม่ของเราจึงไม่เกิดอีก) | ||
+ | |||
+ | แปลคู่กับ มหาวคฺค, | ||
+ | |||
+ | https:// | ||
+ | |||
+ | แต่มีบางท่านอ่านอรรถกถาธรรมบท หรือ พจนานุกรม PTS | ||
+ | |||
+ | แล้วเข้าใจว่า แปล อนิพฺพิสํ ว่า " | ||
+ | |||
+ | อธิบายว่า ในบาลีแปลว่า " | ||
- | แน่ะนายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน | + | อรรถกถาจึงเอาจิตที่แทงตลอดมาขยายว่า ที่ในบาลีแปลว่า " |
- | ท่านจะปรุงแต่งเรือนอีกไม่ได้, | + | ฉะนั้นถ้าแปลบาลี อนิพฺพิสํ ว่า "เราไม่ได้ญาณ, เรายังไม่พบญาณ" |
- | ซี่โครงทุกซี่ของท่านเราหักเสียแล้ว, | + | *ถ้าจะคิดง่ายๆ เลย คือ เยน ญาเณน ในอรรถกถา ทำให้ ตํ ญาณํ ในอรรถกถา กลายเป็นการณะของ ทฏฺฐุํ ในอรรถกถา |
+ | * ในบาลี Subject | ||
+ | * ในอรรถกถา จึงอธิบายแค่ อนิพฺพิสํ ในบทที่ 2 โดยไม่ได้ยก Object มา | ||
+ | * คนแปลบางท่านอ่านอรรถกถาที่ว่า อนิพฺพิสํ ''' | ||
+ | * แต่จริงๆ " | ||
+ | * ส่วน Object อรรถกถาดึงมาจากบทที่ 3 โดยให้ขึ้นเป็นส่วนแรกของการอธิบายสภาวะทั้งหมดนี้ [เพราะบาลีเป็นอุปมาอุปไมย] เพราะไปคู่กับ Subject หลักในบาลี คือ คเวสนฺโต, | ||
- | เราไม่ปรุงแต่งยอดเรือนอีกต่อไปแล้ว, | + | == Note == |
- | จิตของเราเข้าถึงสภาวะไม่ปรุงแต่งแล้ว, | + | - Subject กตฺตา, ประธานของประโยค |
- | เพราะเราบรรลุธรรมที่สิ้นตัณหาแล้ว. | + | - Object กมฺม, |
+ | - Complement ส่วนขยายอื่นๆ ที่เหลือในประโยค |