ฟุตโน้ต:163:138-วีถิ_สงฺคห_ปรมตฺถทีปนี

ความแตกต่าง

นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น

Link to this comparison view

Both sides previous revision Previous revision
Next revision
Previous revision
ฟุตโน้ต:163:138-วีถิ_สงฺคห_ปรมตฺถทีปนี [2022/03/04 01:26]
dhamma
ฟุตโน้ต:163:138-วีถิ_สงฺคห_ปรมตฺถทีปนี [2022/03/05 06:44] (ฉบับปัจจุบัน)
dhamma
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
 +(เรื่องนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของท่านอาจารย์แลดี โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ควรท่องจำบาลีทั้งหมดที่ผมได้รวบรวมลิงก์ไว้ในในบทความเรื่องปรมัตถ์ตาม[[:​ผมพัฒนาจากสายปริยัติมาสู่สายปฏิบัติได้อย่างไร|ลิงก์นี้]] แล้วแทงตลอดให้ได้ก่อนค่อยมาอ่าน จึงจะไม่เป็นโทษ)
 +
 ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ ปรสฺส จิตฺตํ ชานนกาเล อาวชฺชนํ ภาวยํ ปรสฺส จิตฺตํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํฯ ตํ วา อาวชฺชติฯ อุทาหุ ปรโต ตํ ตํ ชวเนน สหุปฺปนฺนํวาฯ ชวนานิจยํ อาวชฺชเนน สหุปฺปนฺนํ ตํ วา ชานนฺติ,​ ปจฺเจกํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํวาติฯ ​ ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ ปรสฺส จิตฺตํ ชานนกาเล อาวชฺชนํ ภาวยํ ปรสฺส จิตฺตํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํฯ ตํ วา อาวชฺชติฯ อุทาหุ ปรโต ตํ ตํ ชวเนน สหุปฺปนฺนํวาฯ ชวนานิจยํ อาวชฺชเนน สหุปฺปนฺนํ ตํ วา ชานนฺติ,​ ปจฺเจกํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํวาติฯ ​
  
-ถามว่า อาวัชชนจิตที่เกิดตอนรู้ปัจจุบันจิตของคนอื่นนั้น มีอารมณ์เป็นจิตของคนอื่นที่เกิดพร้อมกับอาวัชชนจิตนั้น หรือว่า มีอารมณ์เป็นจิตในภายหลังที่เกิดพร้อมกับชวนจิตดวงหลังๆ?​ และชวนะจิตที่เกิดตามมามีอารมณ์เป็นจิตที่เกิดพร้อมกัชวนจิตนั้น หรือ มีอารมณ์เป็นจิตที่เกิดพร้อมกับชวนะแต่ละดวงต่างหาก?​+ถามว่า อาวัชชนจิตที่เกิดตอนรู้ปัจจุบันจิตของคนอื่นนั้น มีอารมณ์เป็นจิตของคนอื่นที่เกิดพร้อมกับอาวัชชนจิตนั้น หรือว่า มีอารมณ์เป็นจิตในภายหลังที่เกิดพร้อมกับชวนจิตดวงหลังๆ?​ และชวนะจิตที่เกิดตามมามีอารมณ์เป็นจิตที่เกิดพร้อมกัชวนจิตนั้น หรือ มีอารมณ์เป็นจิตที่เกิดพร้อมกับชวนะแต่ละดวงต่างหาก?​
  
 กิญฺเจตฺถ,​ ยทิ ตาว อาวชฺชเนน สหุปฺปนฺนํ อาวชฺชติ ชานนฺติจฯ เอวํ สติ ธมฺมโต อภินฺนํ โหติฯ กาลโต ภินฺนํฯ ตญฺหิ จิตฺตํ อาวชฺชนสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ โหติฯ ชวนานํ ปน อตีตนฺติฯ อถ ปจฺเจกํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํ อาวชฺชติ ชานนฺติจฯ เอวญฺจ สติ กาลโต อภินฺนํ โหติฯ ธมฺมโต ภินฺนเมวฯ อถปิ ยํ ปจฺเจกํ สหุปฺปนฺนํ ชานนฺติฯ ตเทว อาวชฺชติฯ เอวํปิ ภินฺนเมว โหตีติฯ ​ กิญฺเจตฺถ,​ ยทิ ตาว อาวชฺชเนน สหุปฺปนฺนํ อาวชฺชติ ชานนฺติจฯ เอวํ สติ ธมฺมโต อภินฺนํ โหติฯ กาลโต ภินฺนํฯ ตญฺหิ จิตฺตํ อาวชฺชนสฺส ปจฺจุปฺปนฺนํ โหติฯ ชวนานํ ปน อตีตนฺติฯ อถ ปจฺเจกํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํ อาวชฺชติ ชานนฺติจฯ เอวญฺจ สติ กาลโต อภินฺนํ โหติฯ ธมฺมโต ภินฺนเมวฯ อถปิ ยํ ปจฺเจกํ สหุปฺปนฺนํ ชานนฺติฯ ตเทว อาวชฺชติฯ เอวํปิ ภินฺนเมว โหตีติฯ ​
บรรทัด 9: บรรทัด 11:
 เอตฺถ อฏฺฐกถายํ ตาว ยํ อาวชฺชเนน สหุปฺปนฺนํฯ ตเทว อาวชฺชติ ชานนฺติจาติ ธมฺมโต อภินฺนํ วตฺวา ตํ จิตฺตํ นิรุทฺธํปิ อทฺธาวเสน สนฺตติวเสนจ คหิตํ ชวนานํปิ ปจฺจุปฺปนฺนเมว โหตีติ วินิจฺฉิตํฯ อาจริยานนฺทมเตน ปน ปรสฺส ตํ ตํ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวา ตํ ตํ อธิปฺปายชานนกาเล อาวชฺชนชวนานิ ปจฺเจกํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํ จิตฺตํ อาวชฺชติ ชานนฺติ จฯ น เจตฺถ ธมฺมโต กาลโตจ ภินฺนํนาม โหติฯ สพฺเพสํปิ หิ อารมฺมณํ จิตฺตเมว โหติ ปจฺจุปฺปนฺนญฺจาติฯ น จ ชวนานิ นิราวชฺชนานินาม โหนฺติฯ อาวชฺชเนนปิ หิ จิตฺตนฺเตว อาวชฺชิตํ โหติฯ ชวนานิจ จิตฺตนฺเตว ชานนฺตีติฯ ​ เอตฺถ อฏฺฐกถายํ ตาว ยํ อาวชฺชเนน สหุปฺปนฺนํฯ ตเทว อาวชฺชติ ชานนฺติจาติ ธมฺมโต อภินฺนํ วตฺวา ตํ จิตฺตํ นิรุทฺธํปิ อทฺธาวเสน สนฺตติวเสนจ คหิตํ ชวนานํปิ ปจฺจุปฺปนฺนเมว โหตีติ วินิจฺฉิตํฯ อาจริยานนฺทมเตน ปน ปรสฺส ตํ ตํ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวา ตํ ตํ อธิปฺปายชานนกาเล อาวชฺชนชวนานิ ปจฺเจกํ อตฺตนา สหุปฺปนฺนํ จิตฺตํ อาวชฺชติ ชานนฺติ จฯ น เจตฺถ ธมฺมโต กาลโตจ ภินฺนํนาม โหติฯ สพฺเพสํปิ หิ อารมฺมณํ จิตฺตเมว โหติ ปจฺจุปฺปนฺนญฺจาติฯ น จ ชวนานิ นิราวชฺชนานินาม โหนฺติฯ อาวชฺชเนนปิ หิ จิตฺตนฺเตว อาวชฺชิตํ โหติฯ ชวนานิจ จิตฺตนฺเตว ชานนฺตีติฯ ​
  
-เรื่องนี้ อันดับแรกจะขอยกวินิจฉัยของ[[sutta>​ปรสฺส%20จิตฺ(th.r.151.63)|อรรถกถา]]ก่อนว่า "​ทั้งอาวัชชนจิตและชวนจิตก็มีอารมณ์เป็นจิตที่เกิดพร้อมกับชวนจิตนั้นนั่นแหละ ท่านกล่าวสภาวะธรรมที่เป็นอารมณ์ไว้ว่าเป็นอย่างเดียวกันแล้วนับเอาจิตที่เป็นอารมณ์แม้ที่ดับไปแล้วนั่นแหละด้วยอำนาจปัจจุบันอัทธาและปัจจุบันสันตติ แม้ชวนะก็เลยมีอารมณ์(เดียวกัน)ที่เป็นปัจจุบันไปด้วย"​. แต่พระ[[sutta>​ปรสฺส%20จิตฺ(th.r.141.195)|อานันทาจารย์]]มีมติว่า ​+เรื่องนี้ อันดับแรกจะขอยกวินิจฉัยของ[[sutta>​ปรสฺส%20จิตฺ(th.r.151.63)|อรรถกถา]]ก่อนว่า "​ทั้งอาวัชชนจิตและชวนจิตก็มีอารมณ์เป็นจิตที่เกิดพร้อมกับชวนจิตนั้นนั่นแหละ ท่านกล่าวสภาวะธรรมที่เป็นอารมณ์ไว้ว่าเป็นอย่างเดียวกันแล้วนับเอาจิตที่เป็นอารมณ์แม้ที่ดับไปแล้วนั่นแหละด้วยอำนาจปัจจุบันอัทธาและปัจจุบันสันตติ แม้ชวนะก็เลยมีอารมณ์(เดียวกัน)ที่เป็นปัจจุบันไปด้วย"​. แต่พระ[[sutta>​ปรสฺส%20จิตฺ(th.r.141.195)|อานันทาจารย์]]มีมติว่า ​"​ในกาลที่กำหนดอาการนั้นๆของคนอื่นแล้วรู้ความประสงค์ อาวัชชนะจิตและชวนจิต ต่างก็แยกกันมีอารมณ์เป็นจิต(ของคนอื่น)ที่เกิดพร้อมกับตนเป็นอารมณ์ คือ ในมตินี้ จิตที่เป็นอารมณ์ ชื่อว่า ไม่ต่างกันทั้งโดยสภาวะและโดยกาล เพราะสภาวะที่เป็นอารมณ์ทั้งของอาวัชชนจิตและชวนจิตก็คือจิต(ของคนอื่น)นั่นแหละและก็เป็นจิตที่เป็นกาลปัจจุบันด้วย. และชวนทั้งหลายก็จะไม่ชื่อว่าไม่มีอาวัชชนะด้วย เพราะจิตนั่นเองได้ถูกอาวัชชนจิตอาวัชนะว่า "​จิต"​ แล้ว และจิตนั่นเองได้ถูกชวนะจิตรู้ว่า "​จิต"​ แล้วเช่นกัน.
  
-ยทิ ปน อาวชฺชเน น จิตฺตนฺติ อาวชฺชิเต ชวนานิ รูปนฺติ ชานนฺติฯ รูปนฺติวา อาวชฺชิเต จิตฺตนฺติ ชานนฺติ,​ นีลนฺติวา อาวชฺชิเต ปีตนฺติ ชานนฺติฯ เอวํ สติ ชวนานิ ธมฺมโต นิราวชฺชนานิ นาม โหนฺติฯ ตถา อตีตนฺติ อาวชฺชิเต ปจฺจุปฺปนฺนนฺติฯ เอวญฺจ สติ ตานิ กาลโต นิราวชฺชนานินาม โหนฺตีติฯ ยสฺมา จ อตีโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโยติ ปฏฺฐาเน วุตฺโตฯ ตสฺมา อิธ ขณวเสเนว ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺตุํ ยุตฺตํฯ น อทฺธาสนฺตติ วเสนาติฯ อิตรถา สพฺพ วีถิจิตฺตวาเรสุปิ อารมฺมณานํ อตีตาทิภาโว อทฺธาสนฺตติวเสเนว วตฺตพฺโพ สิยาติฯ คาถายํ ตีเณวาติ กิจฺจวเสน ตีณิ เอวฯ จิตฺตุปฺปาทา ทเสริตาติ จิตฺตุปฺปตฺติกฺขณวเสน ทส อีริตานิ กถิตานิฯ+ยทิ ปน อาวชฺชเนน จิตฺตนฺติ อาวชฺชิเต ชวนานิ รูปนฺติ ชานนฺติฯ รูปนฺติวา อาวชฺชิเต จิตฺตนฺติ ชานนฺติ,​ นีลนฺติวา อาวชฺชิเต ปีตนฺติ ชานนฺติฯ เอวํ สติ ชวนานิ ธมฺมโต นิราวชฺชนานิ นาม โหนฺติฯ ตถา อตีตนฺติ อาวชฺชิเต ปจฺจุปฺปนฺนนฺติฯ เอวญฺจ สติ ตานิ กาลโต นิราวชฺชนานินาม โหนฺตีติฯ ยสฺมา จ อตีโต ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโยติ ปฏฺฐาเน วุตฺโตฯ ตสฺมา อิธ ขณวเสเนว ปจฺจุปฺปนฺนํ วตฺตุํ ยุตฺตํฯ น อทฺธาสนฺตติ วเสนาติฯ อิตรถา สพฺพ วีถิจิตฺตวาเรสุปิ อารมฺมณานํ อตีตาทิภาโว อทฺธาสนฺตติวเสเนว วตฺตพฺโพ สิยาติฯ ​
  
-วิถา เนาติ จิตรูปวิตฺถนฯ ​เอตฺถติ มโทฺวาเรฯ เอจตฺตติ ​ญฺญฺญณมโาตูหิ ​ชฺชิตานํ กามาวจิตฺตานํ วเน เอตฺตาลีสํฯ ​เอตถาิ ปรตฺตชวนวาเรฯ [ปรตวา]+าเป็อย่งที่ว่า '​เมื่ออาวัชชนจิอาวัชนะว่า "จต" แล้วชวนะจิตไปรู้ว่า "​รูป"'​ หรือ '​เมื่อจิอาวัชนะว่า "รูป" แล้ิตชวนะรู้ว่า "​จิต"'​ หือ 'มื่จิวัชา "ขียว"​ แล้วจิตชวนะู้ว่า "หลืง"'​ อย่างนี้ชวนก็จะชื่อว่า ไม่มวัชชนะไเสียได้ ฉันใดก็ฉันนั้น '​เมื่อจิตอวัชชะว่า "​อดี" แล้ิตที่ชวนะรู้ว่า "​ปัจจุบั" ​็จะชื่อว่่มีอาวัชชนะไปด้วยเช่นกัน. และเพราะใปัฏฐานตรัส่า "​อดีตธรรมป็อนันตรปัจจัยแห่งปัจจุบันธรรม",​ ดังนั้น ในที่นี้ป็นปัจจุบันด้วยำนาขณะกาลเท่านั้น,​ ไม่ใช่ัทธากาลและสันติกาล. ​จฉัยเป็อย่างอื่น ก็จะกลายเป็นอาจกล่าวควาเป็นอดีตแห่งอามณ์ด้วยอำนาจอัทธาและสันติแม้ในวิถีจิตวาระทั้งวาระได้ด้วย. ​