ปฏิสัมภิทามรรค_03_มหาวรรค

ความแตกต่าง

นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น

ลิงค์ไปยังการเปรียบเทียบนี้

การแก้ไขก่อนหน้าทั้งสองฝั่ง การแก้ไขก่อนหน้า
ปฏิสัมภิทามรรค_03_มหาวรรค [2025/01/23 09:49] – [ปริกมฺมนิทฺเทโส] dhammaปฏิสัมภิทามรรค_03_มหาวรรค [2025/01/23 11:55] (ฉบับปัจจุบัน) – [ปริกมฺมนิทฺเทโส] dhamma
บรรทัด 297: บรรทัด 297:
 ศัพท์ว่า ปริ ในคำว่า ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา มีความกำหนดถือ เอาเป็นอรรถศัพท์ว่า มุขํ มีความนำออกเป็นอรรถ ศัพท์ว่า สติ มีความเข้าไปตั้งไว้เป็นอรรถ เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ตั้งสติไว้เฉพาะหน้า ฯ ศัพท์ว่า ปริ ในคำว่า ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา มีความกำหนดถือ เอาเป็นอรรถศัพท์ว่า มุขํ มีความนำออกเป็นอรรถ ศัพท์ว่า สติ มีความเข้าไปตั้งไว้เป็นอรรถ เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ตั้งสติไว้เฉพาะหน้า ฯ
  
-[389] คำว่า เป็นผู้มีสติหายใจออก ความว่า ภิกษุมีสติโดยอาการ 32 กระทำ (ด้วยสัมปชัญญะ) อยู่ คือ ภิกษุเป็นผู้ตั้งสติมั่น เพราะรู้ชัดควไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวงจิตด้วยการรู้ชัดลมหายใจออกยาว จึงชื่อ่า ภิกษุมีสติดยาการ 32 จึงเป็นผู้กระทำอยู่ (ด้วยสัมปชัญะด้วสตินั้น ด้วยญาณนั้น เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ควมที่จิตอารมณ์เดียวไม่ฟุ้งซ่านด้วยสามารลมหายใจเข้ายาว ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ควมที่จิตอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่านด้วยสามารลมหายใจออกสั้น ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ควมที่จิตอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารลมหายใจเข้าสั้น ชื่อว่าเป็นผู้อบรมสติด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น ฯลฯ เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออกชื่อว่าเป็นผู้อบรมสติด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น ฯ+[389] คำว่า เป็นผู้มีสติหายใจออก ความว่า ภิกษุมีสติโดยอาการ 32 กระทำ (ด้วยสัมปชัญญะ) อยู่ คือ  
 + 
 +ภิกษุเป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภพของจิตที่ไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจออกยาว ด้สตินั้น ้วณนั้น ภิษุจึงชื่อว่า เป็นผู้มีสติ กระทำ (ด้วยญาณู่   
 +เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภพของจิตไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจเข้ายาว ...  
 +เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภพของจิตไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจออกสั้น ...  
 +เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภพของจิตไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจเข้าสั้น ชื่อว่าเป็นผู้อบรมสติด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น ฯลฯ เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออกชื่อว่าเป็นผู้อบรมสติด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น ฯ
  
 ===ปฐมจตุกฺกนิทฺเทโส=== ===ปฐมจตุกฺกนิทฺเทโส===