ความแตกต่าง
นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น
การแก้ไขก่อนหน้าทั้งสองฝั่ง การแก้ไขก่อนหน้า การแก้ไขถัดไป | การแก้ไขก่อนหน้า | ||
ปฏิสัมภิทามรรค_03_มหาวรรค [2024/12/31 16:14] – [โวทานญาณนิทฺเทโส] dhamma | ปฏิสัมภิทามรรค_03_มหาวรรค [2025/01/23 11:55] (ฉบับปัจจุบัน) – [ปริกมฺมนิทฺเทโส] dhamma | ||
---|---|---|---|
บรรทัด 297: | บรรทัด 297: | ||
ศัพท์ว่า ปริ ในคำว่า ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา มีความกำหนดถือ เอาเป็นอรรถศัพท์ว่า มุขํ มีความนำออกเป็นอรรถ ศัพท์ว่า สติ มีความเข้าไปตั้งไว้เป็นอรรถ เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ตั้งสติไว้เฉพาะหน้า ฯ | ศัพท์ว่า ปริ ในคำว่า ปริมุขํ สตึ อุปฏฺฐเปตฺวา มีความกำหนดถือ เอาเป็นอรรถศัพท์ว่า มุขํ มีความนำออกเป็นอรรถ ศัพท์ว่า สติ มีความเข้าไปตั้งไว้เป็นอรรถ เพราะเหตุนั้นท่านจึงกล่าวว่า ตั้งสติไว้เฉพาะหน้า ฯ | ||
- | [389] คำว่า เป็นผู้มีสติหายใจออก ความว่า ภิกษุอบรมสติโดยอาการ 32 คือภิกษุเป็นผู้ตั้งสติมั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว | + | [389] คำว่า เป็นผู้มีสติหายใจออก ความว่า ภิกษุมีสติโดยอาการ 32 กระทำ (ด้วยสัมปชัญญะ) อยู่ |
+ | |||
+ | ภิกษุเป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภาพของจิตที่ไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจออกยาว | ||
+ | เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภาพของจิตที่ไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจเข้ายาว ... | ||
+ | เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภาพของจิตที่ไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจออกสั้น ... | ||
+ | เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่น เพราะรู้ชัดสภาพของจิตที่ไม่ฟุ้งซ่านมีอารมณ์เดียวคือลมหายใจเข้าสั้น ชื่อว่าเป็นผู้อบรมสติด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น ฯลฯ เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออก ... เป็นผู้ตั้งสติไว้มั่นเพราะรู้ความที่จิตมีอารมณ์เดียว ไม่ฟุ้งซ่าน ด้วยสามารถความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละคืนหายใจออกชื่อว่าเป็นผู้อบรมสติด้วยสตินั้น ด้วยญาณนั้น ฯ | ||
===ปฐมจตุกฺกนิทฺเทโส=== | ===ปฐมจตุกฺกนิทฺเทโส=== |