ความแตกต่าง
นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น
Next revision | Previous revision | ||
ขุททกปาฐะ_ฉบับปรับสำนวน [2020/06/27 22:23] 127.0.0.1 แก้ไขภายนอก |
ขุททกปาฐะ_ฉบับปรับสำนวน [2021/01/02 20:14] (ฉบับปัจจุบัน) |
||
---|---|---|---|
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
- | {{wst>วสธมฉปส head| }} | + | {{template:วสธมฉปส head| }} |
- | {{wst>วสธมฉปส sidebar}} | + | {{template:ฉบับปรับสำนวน head|}} |
'''พระสุตตันตปิฎก | '''พระสุตตันตปิฎก | ||
บรรทัด 164: | บรรทัด 164: | ||
=มงคลสูตร= | =มงคลสูตร= | ||
- | ''ว่าด้วยมงคล'' | + | (สิ่งที่เมื่อใครๆ ฟังจำทบทวนท่องบ่นทุกวันไปตลอดชีวิตแล้ว ชีวิตจะเจริญสุดๆ) |
- | [1] ข้าพเจ้า3ได้สดับมาอย่างนี้ | + | [1] ข้าพเจ้า((ข้าพเจ้า ในตอนเริ่มต้นของพระสูตรนี้และพระสูตรอื่นๆ ในเล่มนี้หมายถึง พระอานนท์))ได้สดับมาอย่างนี้ |
- | สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถ | + | สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น เมื่อราตรีผ่านไป ((ราตรีผ่านไป ในที่นี้หมายถึงปฐมยาม(ยามแรก) กำหนดเวลา 4 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกาถึง 22 นาฬิกาแห่งราตรีที่ผ่านไป กำลังอยู่ในช่วงมัชฌิมยาม(ยามกลาง) คือกำลังอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22 นาฬิกา ถึง 2 นาฬิกาของวันใหม่ (องฺ.ฉกฺก.อ. 3/21-22/108, ขุ.ขุ.อ. 5/99) )) เทวดาองค์หนึ่งมีวรรณะ |
- | บิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น เมื่อราตรีผ่านไป4 เทวดาองค์หนึ่งมีวรรณะ | + | |
งดงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีให้สว่างไปทั่วพระเชตวัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ | งดงามยิ่งนัก เปล่งรัศมีให้สว่างไปทั่วพระเชตวัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ | ||
- | ถวายอภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร5 ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า | + | ถวายอภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร((ที่สมควร (เอกมนฺตํ) ในที่นี้หมายถึงที่เหมาะสมเว้นโทษ 6 ประการ คือ (1) ไกลเกินไป (2) ใกล้เกินไป (3) อยู่เหนือลม (4) สูงเกินไป (5) อยู่ตรงหน้าเกินไป (6) อยู่ข้างหลังเกินไป (องฺ.ทุก.อ. 2/16/15) )) ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า |
- | [2] เทวดาและมนุษย์จำนวนมาก | + | เทวดาถามว่า: |
- | ต่างมุ่งหวังความสวัสดี ร่วมกันคิดถึงเรื่องมงคล | + | |
- | ขอพระองค์ตรัสบอกมงคลอันสูงสุดด้วยเถิด | + | |
- | (พระผู้มีพระภาคจึงตรัสตอบดังนี้) | + | |
- | [3] (1) การไม่คบคนพาล (2) การคบแต่บัณฑิต | + | [2] มหาชนทั้งเทวดาและมนุษย์คิดหาวิธีทำชีวิตให้เจริญสุดๆ กันมายาวนาน. ขอท่านโปรดสอนวิธีนั้นให้แก่มหาชนที่ตั้งอกตั้งใจรอฟังจำทบทวนวิธีนั้นเพื่อปฏิบัติตามกันอยู่ด้วยเถิด. |
- | (3) การบูชาคนที่ควรบูชา | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [4] (4) การอยู่ในถิ่นที่เหมาะสม | + | พระพุทธเจ้าตอบว่า: |
- | (5) การได้สร้างบุญไว้ในปางก่อน (6) การตั้งตนไว้ชอบ | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [5] (7) ความเป็นพหูสูต (8) ความเป็นผู้มีศิลปะ | + | [3] (1) จงอยู่กับคนไม่พัฒนาตนเองให้น้อยลงๆ. (2) จงเข้าหาผู้ที่ชอบพัฒนาให้มากขึ้นๆ. (3) จงบูชาเทิดทูนคนที่สั่งสอนวิธีพัฒนาให้เราได้. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (9) วินัยที่ศึกษามาดี (10) วาจาสุภาษิต | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [6] (11) การบำรุงมารดาบิดา (12) การสงเคราะห์บุตร | + | [4] (4) ควรเกิดในประเทศที่เจริญพัฒนาแล้ว, (5) จึงต้องพัฒนาตัวเองไว้ตั้งแต่อดีตชาติ, (ุ6) และขณะนี้คืออดีตชาติของชาติหน้า, ฉะนั้น ต้องตั้งใจพัฒนาตัวเองตั้งแต่ตอนนี้เลย! จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (13) การสงเคราะห์ภรรยา (14) การงานที่ไม่อากูล1 | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [7] (15) การให้ทาน (16) การประพฤติธรรม | + | [5] (7) เมื่อได้อยู่ในประเทศที่เจริญ ได้คนสอนที่เจริญน่าบูชาแล้ว, จงตั้งใจฟังจำทบทวนคำสอนเพื่อพัฒนาเยอะๆ, (8) แล้วฝึกฝนพัฒนาตาม (9) อย่างมีระเบียบวินัย, (10) คิดทำพูดแต่เรื่องการพัฒนาชีวิตให้เจริญ. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (17) การสงเคราะห์ญาติ (18) การงานที่ไม่มีโทษ | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [8] (19) การงดเว้นจากบาป (20) การเว้นจากการดื่มน้ำเมา | + | [6] (11) คนที่พัฒนาตนเอง จะดูแลมารดาบิดาดี, (12-13) คนที่พัฒนาตนเอง จะดูแลบุตรและภรรยาดี เพราะชีวิตจะไม่เจริญถ้าละเลยกิจที่ควรต้องทำ ได้แก่ จาริตศีลคือการดูแลผู้มีพระคุณรอบข้าง เป็นต้น ที่เป็นสิ่งที่ควรทำทันที (14) ไม่ควรปล่อยเลยจนตายจากกันไปก่อน. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (21) ความไม่ประมาทในธรรม | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [9] (22) ความเคารพ (23) ความถ่อมตน (24) ความสันโดษ | + | [7] (15) ยังมีจาริตศีลอีกมากที่ต้องทำทันที ตัวอย่างเช่น การเสียสละให้ทันที, (16) การคิดกุศลกรรมบถ 10 ตลอดตั้งแต่ตอนนี้, (17) การดูแลญาติพี่น้องทันที, (18) รวมถึงการงดเว้นกิจกรรมที่จะมีผลเสียตามมาทีหลังได้. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (25) ความกตัญญู (26) การฟังธรรมตามกาล | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [10] (27) ความอดทน1 (28) ความเป็นคนว่าง่าย | + | [8] ศีลอีกมากที่ต้องงดเว้นทันทีก็มีด้วย ตัวอย่างเช่น (19) การไม่คิดอกุศลกรรมบถ 10 เลย, (20) การไม่เสพสิ่งที่ทำให้มัวเมา, (21) ไม่ประมาทหลงลืมคิดถึงอารมณ์ของกุศลจิต (อินทริยสังวรศีล ปิดทวาร 6 เปิดใจ) เป็นต้น. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (29) การพบเห็นสมณะ (30) การสนทนาธรรมตามกาล | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [11] (31) การเผาผลาญบาป (32) การประพฤติพรหมจรรย์2 | + | [9] เมื่อพัฒนาชีวิตตามที่กล่าวมาเหล่านั้นแล้ว, (22) เขาจะรู้จักเคารพคนอื่นด้วยคารวะ 6 (23) และรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน, (24) จะรู้จักใช้สอยปัจจัย 4 ตามความเหมาะสม ทั้งเหมาะแก่ตนและเหมาะแก่คนอื่น, (25) จะรู้จักบุญคุณของสมณะผู้สอนวิธีพัฒนาตน ก็จะให้ปัจจัย 4 ที่เหมาะแก่การแสดงความกตัญญูกตเวที เพื่อผูกมิตรกับสมณะผู้มีความรู้ท่านนั้น. เมื่อทำอย่างนี้ ตัวนักปฏิบัติเองจึงจะตั้งใจฟังวิธีพัฒนาตนจากสมณะอย่างเคารพด้วยการทำคารวะ 6 มีการแสดงความเคารพด้วยปฏิสันถารเป็นที่สุด (ปฏิสันถารคารวตา), (26) และเมื่อสมณะเห็นพื้นฐานที่ดีเหล่านั้น ท่านจึงจะเปิดโอกาสให้เขาได้รับฟังวิธีพัฒนาตัวเองที่ดีมากขึ้นๆ ไปอีก. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (33) การเห็นอริยสัจ (34) การทำนิพพานให้แจ้ง | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [12] (35) จิตของผู้ที่ถูกโลกธรรมกระทบแล้วไม่หวั่นไหว | + | [10] (27) เมื่อได้ฟังวิธีพัฒนาตัวเองที่ดีมากขึ้นๆ แล้ว ต้องอดทนฟังจนเข้าใจ, (28) ไม่หงุดหงิดขุ่นเคืองรำคาญง่ายๆ ให้อดทนพิจารณา สมณะแนะนำอะไรๆ ก็เปิดใจรับฟังดีๆ (ตามกถาวัตถุสูตร), (29) ให้เข้าหาดูแลแสดงความกตััญญูแก่สมณะบ่อยๆ, (30) จะได้สอบถามเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาตนบ่อยๆ. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | (36) จิตไม่เศร้าโศก (37) จิตปราศจากธุลี (38) จิตเกษม | + | |
- | นี้เป็นมงคลอันสูงสุด | + | |
- | [13] เทวดาและมนุษย์ทำมงคลดังกล่าวมานี้แล้ว | + | [11] เมื่อมีศีล และจำวิธีพัฒนาตัวเองที่ดีมากขึ้นๆ ได้แล้ว (31) จะสามารถทำความเพียรทั้งสมถะและวิปัสสนาต่อเนื่องได้ (ตาปี,อาตาปี) (32)จนถึงขั้นสมาบัติ (อัปปนา), (33) เมื่อได้มัคคภาวนาสมาบัติ ก็จะเห็นอริยสัจ 4 แทงตลอด, (34) นิพพานก็เป็นอันทำให้แจ้งด้วยเช่นกัน. จงพัฒนาอย่างนี้ ชีวิตจะได้เจริญสุดๆ! |
- | ไม่พ่ายแพ้ข้าศึกทั้งปวง ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน | + | |
- | ทั้ง 38 ประการนั้น เป็นมงคลอันสูงสุด | + | [12] (35)เมื่อพัฒนาชีวิตครบแต่ต้นจนจบอย่างนี้ จนจิตไม่หวั่นไหวกับการได้ลาภ เสื่อมลาภ, ไม่หวั่นไหวกับการได้ยศ เสื่อมยศ, ไม่หวั่นไหวกับคำชม คำด่า, ไม่หวั่นไหวกับทุกข์ สุข, (36) ไม่เศร้าโศกเสียใจ (37) กิเลสแม้ละเอียดเปรียบละอองธุลีไม่สามารถเกิดขึ้นเลย (38) จิตมีแต่ความมั่นคงปลอดภัย. เมื่อพัฒนาครบอย่างนี้ ชีวิตก็เจริญสุดแล้ว 😇 |
- | ของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น | + | |
+ | [13] ใครก็ตามที่พัฒนาชีวิตด้วย 38 วิธีนี้สำเร็จ, ชีวิตของเขาก็จะไม่ด้อยพัฒนาอีกเลย เขาจะไม่ตกต่ำอีกเลย. เขาจะมีความสุขสวัสดีในทุกที่ทุกเวลา. หลักพัฒนาชีวิต ที่เรียกว่ามงคล 38 ดังกล่าวมาทั้งหมดนี้แหละ ที่มหาชนทั้งเทวดาและมนุษย์ คิดหาวิธีทำชีวิตให้เจริญสุดๆ กันมายาวนาน จนเทวดาต้องมาถามพระพุทธเจ้าและตั้งอกตั้งใจรอฟังจำทบทวนเพื่อปฏิบัติตามกันอยู่. | ||
''มงคลสูตร จบ'' | ''มงคลสูตร จบ'' |